อดีตผกก.โจ้และพวก ผิดวินัยร้ายเเรง โทษไล่ออกจากราชการ
วันนี้ 28 ต.ค. 64 คณะกรรมการสอบสวน พิจารณาลงมติชี้มูลความผิดทางวินัย สรุปสำนวนเป็นความผิดวินัยร้ายแรง ลงโทษไล่ออกจากราชการ "อดีตผกก.โจ้" และพวก รวมทั้งหมด 7 คน
ความคืบหน้าคดีผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล เเละพวก ในวันที่ 28 ต.ค.64 ที่ตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พล.ต. ท. สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร เรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง คดีผกก.โจ้ เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว พิจารณาลงมติชี้มูลความผิดทางวินัย สรุปสำนวนเป็นความผิดวินัยร้ายแรง ลงโทษไล่ออกจากราชการ เเละจะสรุปสำนวนเพื่อเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาสั่งการ
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ การสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรงของอดีตผู้กำกับโจ้พร้อมพวกรวม 7 คน ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยทางคณะกรรมการสอบสวน โดยทางคณะกรรมการได้เร่งรัดดูแลการสอบสวนอย่างละเอียดและรอบครอบที่สุดรวมใช้เวลา 60 วันจากกำหนด 180 วัน และยืนยันว่าทางคณะกรรมการสอบสวนทำงานบนพื้นฐานข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่าทำหน้าที่ข้าราชการตำรวจ ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 7 รายเองก็เป็นอดีตตำรวจ และทุกขั้นตอนการสอบสวนทำอย่างชัดเจนและโปร่งใสเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ช่วยรักษาคุณธรรมให้กับองค์กรตำรวจ ไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด
ด้านผลจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ยังยืนยันให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เกี่ยวความผิดวินัย นั่นก็ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถกระทำได้ โดยหลังจากนี้จะสรุปสำนวนคดีฐานความผิด คือผิดวินัยร้ายแรง ต่อผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย เพื่อนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาที่ทำการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นให้พิจารณาคำสั่งในการปลดออกจากราชการตำรวจต่อไป
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 ต.ค.64 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึง ความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ กับลูกน้องรวมทั้งหมด 7 คน ร่วมกันใช้ถุงดำคลุมหัวรีดทรัพย์เหยื่อซึ่งเป็นผู้ต้องหาจนขาดอากาศเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้เข้าสู่การฝากขังครั้งที่ 6 แล้ว เหลืออีกเพียง 22-23 วันจะครบกำหนดฝากขัง แต่สำนวนคดียังไม่ถึงมือของอัยการ ว่า จากการสอบถามอัยการจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับแจ้งจากคณะพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแจ้งว่า จะนำสำนวนคดีทั้งหมดพร้อมพยานหลักฐานส่งมอบให้กับพนักงานอัยการสำนักงานคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในวันที่ศุกร์ที่ 29 ต.ค.นี้ และจะมีการแถลงข่าวต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews