เจ้าของที่ดินแจงแล้ว ถมดินสูง 7 เมตร มิดหลังคาเพื่อนบ้าน อ้างขออนุญาตแล้ว
เจ้าของที่ดินยอมพูดแล้ว สาเหตุเหตุถมดินสูง 7 เมตร มิดหลังคาเพื่อนบ้าน ลั่นเป็นพื้นที่ลาดต่ำ จึงจำเป็นต้องถมดินให้ตรงส่วนท้ายสูงกว่า เพื่อระบายน้ำออกไปทางถนนได้ ส่วนขั้นตอนการถมดิน ยืนยันว่าขออนุญาตเจ้าหน้าที่แล้ว
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความ เล่าเหตุการณ์ที่เพื่อนบ้าน ได้ก่อสร้างกำแพงและถมดินสูง จนจะท่วมหลังคาบ้านของเธอ โดยได้ระบุข้อความ ขอไอเดียและแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว ทำให้ชาวโซเชียลต่างมาแสดงความคิดเห็น และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก
เพื่อนบ้านถมดินสูงเกินรั้วเดิม จนเราต่อรั้วสีแดงขึ้นไปเพื่อกันดินหล่นระหว่างถม แต่ดินเขาก็สูงเกินระดับรั้วที่ต่ออีกรั้วบ้านเขา ก็สูงเกินหลังคาบ้านเรา หันด้านอิฐบล๊อกมาน่าเกลียดมากค่ะ หมดความสวยงาม อยากขอไอเดียหน่อยนะคะ ว่าทำยังไงดีให้มันสวยขึ้นบ้าง
ซึ่งตอนแรกเธอก็ได้คิดอะไรมาก แต่พอเห็นผนังและก็ดินที่ถมสูงขึ้น จึงเริ่มรู้สึกแปลกใจ งงอย่างมากที่ข้างบ้านถมดินเอาไว้สูงขนาดนั้น สูงจนเกือบจะเท่าตัวบ้านของเธอเลย แค่นั้นยังไม่พอจากขอบดินที่ถมสูงเอาไว้ ยังมีการสร้างผนังกำแพงต่อขึ้นไปอีกด้วย งานนี้สูงเลยหลังคาบ้านเธอไปเป็นที่เรียบร้อย หมดหนทางที่ลมจะผ่านเข้าออกได้ทันที
ต่อมา เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง แต่ก็ได้สั่งระงับการต่อใบอนุญาตแล้ว เนื่องจากมีข้อพิพาทระหว่างกัน หลังจากนี้จะแก้ไขปัญหาต่อไป
ล่าสุด เจ้าของที่ดินออกมาชี้แจงเรื่องนี้แล้วว่า ที่ดินมันเป็นพื้นที่ลาดต่ำ จึงจำเป็นต้องถมดินให้ตรงส่วนท้ายสูงกว่า เพื่อระบายน้ำออกไปทางถนนได้ ส่วนขั้นตอนการถมดิน ยืนยันว่าขออนุญาตเจ้าหน้าที่แล้ว มีวิศวกรควบคุมโครงการ ส่วนเรื่องของน้ำไหลเข้าบ้านของประชาชน ตรวจสอบแล้วไม่ใช่สาเหตุโดยตรง หลังจากนี้ต้องรอความชัดเจนจากทางอำเภอต่อไป
ทางด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า หากการถมดินสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ทางเทศบาลสามารถสั่งให้หยุดขุดดินได้ตามมาตรา 29 วรรค 2 แห่งกฎหมายถมดิน เพราะที่ผ่านมาเคยมีคดีถมดินแล้วน้ำไหล อะไรหลายอย่างพังขึ้นสู่ศาลปกครองมาแล้ว ฉะนั้นผู้เสียหายในเรื่องนี้ สามารถใช้สิทธิทางศาลได้เลย จะฟ้องเทศบาลหรือจะฟ้องคนถมดินก็ได้
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบหลายราย ได้พร้อมใจติดประกาศขายบ้าน เนื่องจากทนไม่ไหวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเผยว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโครงสร้างของกำแพง ความปลอดภัย รวมถึงการขออนุญาตว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ ส่วนสาเหตุที่ขายบ้าน เพราะไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว มีกำแพงสูงบดบังทัศนียภาพ บังแดด บังลม ตากผ้าก็ไม่แห้ง บรรยากาศบ้านไม่เห็นแสง เห็นแล้วรู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ เวลาที่ฝนตก จะมีน้ำไหลทะลุกำแพงด้วย แต่ที่กังวลขั้นสุดคือ กำแพงจะถล่มลงมา