คำสั่งด่วน! ปิดหมู่บ้านท่องเที่ยว หลังผู้ติดเชื้อพุ่ง ตั้งเวรยามตลอด 24 ชม.

จากกรณี วันนี้ 5 พฤศจิกายน 2564 มีรายงานที่เชียงรายสั่งปิดด่วนหมู่บ้านดอยสะโง้หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 48 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 75 คน ห้ามเข้า-ออก ตั้งเวรยามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

โดยรายงานระบุว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ที่หมู่บ้านดอยสะโง้ หมู่ 7 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เชียงแสน ได้ทำการตรวจคัดแยกประชาชนในหมู่บ้าน หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ หลังจากพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย โดยการตรวจแบบ Antigen test kit (ATK) จำนวน 48 คน และกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องกักตัวอีกจำนวน 75 คน โดยทางอำเภอเชียงแสน ได้ออกคำสั่งปิดหมู่บ้าน ห้ามผู้ใดเข้า-ออกหมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 5-18 พฤศจิกายน 2564

 

 

- เปิดอาการล่าสุด “ท็อป ดารณีนุช” หลังติดโควิด-19 สายพันธ์เดลตา

- เดือดไม่ไว้หน้า! "สายป่าน" ตอกสนั่น หลัง เจอถามเรื่องรอยสักในที่ลับ

- มีคำตอบแล้ว! หลัง "ธนาคารกรุงไทย" ประกาศ ถ้าไม่ฉีดวัคซีนห้ามเข้า

ด้าน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอเชียงแสน พร้อมด้วยสาธารณสุขอำเภอเชียงแสน ปลัดอำเภอประจำตำบลศรีดอนมูลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เรียกประชุมเพื่อยกระดับการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่บ้านดอยสะโง้ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเข้าข่ายสะสมและมีกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวนมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดแยกคนในหมู่บ้าน โดยแยกออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเปราะบาง กลุ่มทั่วไป และจะดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ให้แก่บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีผลการตรวจ ATK เป็นลบ และยังไม่เคยได้รับวัคซีนให้ได้มากที่สุด

 

 

ทั้งนี้ อบต.ศรีดอนมูล ได้ให้การช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงสูงและประชาชนบ้านดอยสะโง้ที่ได้รับผลกระทบ จากการปิดหมู่บ้าน โดยได้จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ เพื่อรับบริจาคสิ่งของ ที่อบต.ศรีดอนมูล โดยให้บูรณาการร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.ศรีดอนมูล นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการปิดเส้นทางเข้า-ออก บ้านดอยสะโง้ ทุกเส้นทาง โดยให้มีการตั้งจุดตรวจ จำนวน 3 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.ศรีดอนมูล จัดเวรยามประจำจุดตรวจ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปยังชุมชนอื่น

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews