“เน วัดดาว” เดือด หลังถูกแอบอ้าง เป็นหนึ่งในสมาชิก เหยียดคนอีสาน จนทัวร์ลง!

จากกรณีมีคนกลุ่มหนึ่งนั้นได้จัดตั้ง คลับเฮาส์ มาพูดคุยในแง่ลบ เเละวิพากษ์วิจารณ์คนอีสาน ถึงประเพณี วัฒนธรรม การใช้ชีวิตในกรุงเทพ แฟชั่นการเเต่งตัว การหาสามีฝรั่ง การมีครอบครัวทั้งที่อายุยังน้อย เเละ การเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ เพื่อทำให้คนกรุงเทพดูสูงขึ้น ฯลฯ และยังคงเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้ อีกทั้งยังมีช่วงหนึ่งในการสนทนากลุ่มเเชททรามนี้ ก็ได้ท้าทาย ลามกล่าวถึงพิธีกรฝีปากกล้าอย่าง “หนุ่ม กรรชัย” 

 

 

ล่าสุดคนดังในโลกโซเชียลอย่าง “เน วัดดาว” ก็ได้ออกมา ซัดเดือด หลังถูกแอบอ้าง เป็นหนึ่งในสมาชิกคลับเฮ้าส์ เหยียดคนอีสาน จนทัวร์ลง! โดย “เน วัดดาว” นั้นก็ได้โพสต์ระบุข้อความว่า  “คือ อยาก รู้หัวใจคน ที่ กล่าวหาว่าผม คือ 1 ใน คนที่เล่นคลับเฮ้า เอาตรงๆ แค่การที่คุณเห็นผมรู้จักกัน แล้วคุณ มา ด่าผม ผมนี่ งง กับ พวกคุณ คุยหัวร้อนเพราะเขาเหยีดคนอีสาน เขาด่าเหมารวมคนอีสาน แต่คุณ ใช้วิธีเดียวกันมาเหมารวมผม แต่ที่ ยิ่งกว่าคือความที่คุณมั่นใจในสมองของคุณ ชี้มาที่ผมว่าผมคือ คนนึงในนั้น ที่ด่าคนอีสาน  ผมแม่งยิ่งงงใจ ว่า ใช้อะไร เอางี้ ผมขอพูด3ข้อ นะ แล้ว สมองคุณอาจจะได้คำตอบ

 

 

 

- ทีมงานไม่รู้ ปล่อยนักร้องทำการแสดงท่ามกลางโศกนาฏกรรม

- คุณแม่ท้องแก่ ถูกฉีดวัคซีนโควิดก่อนเข้าห้องคลอด สุดท้ายเกิดเรื่องสลดใจ

- ออกเเล้ว! ผลชันสูตร เผยสาเหตุ"รองเจี๊ยบ"เสียชีวิต

1แม่ผม คน ยโสธร

2แม่ของลูกผม  มหาสารคาม

3แฟนที่อยู่กับผมทุกวันนี้ อยู่ช่วง ศรีษะเกตุ

= ลูกผม และตัวผมเอง คือลูกคนอีสาน

3 ข้อ นี้  พอจะช่วย ให้เอาไปวิเคาะห์ อีกทีไหม ว่าผม ใช่คนนั้นไหม

ถ้าคิดได้แล้ว ที่มาด่าๆมาปรักปรำผมเนี่ย ...  ควรทำยังไงต่อไหนขอดู จิตสำนึกของพวกพี่ๆ คนดีทั้งหลายหน่อยครับ ที่ มโนได้ไกลเป็น 100กิโลเลย

ที่ผมเงียบเพราะผม ก็ แทบไม่ค่อยได้อธิบายอะไรเลยทุกครั้งที่ถูกกล่าวหา  แต่หลังๆ แม่งถี่ไป กล่าวหาลอยๆ แบบนี้ ขึ้นศาลยังไง โดนครับ ใส่ร้ายกันง่ายเกินไปนะบางที”

 

 

“การที่มึ- เอา กรูไป กล่าวหาในโพสต์นี้ ถือว่ารุนแรงมาก เพียงแค่ ต้องการคนเห็นโฆษณาของมึ-  มึ-ถึงขั้นต้องใส่ร้ายคนอื่นเลย  กรู โดนคน เข้ามากล่าวหากรู แต่ที่กรูไม่ค่อยพูดอะไร เพราะกรูไม่ได้ ทำอะไรและไม่ได้เล่น คลับเฮ้าส์อะไรนี่ด้วย” “ด่าเสร็จก็ไป ที่ด่ากรูมา ด่าผิดตัว มีใคร ขอโทษ สักคนไหม”

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews