ตำรวจบุกโกดัง ลอกลอบนำเข้าเครื่องมือแพทย์และวัตถุอันตราย
ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข บุกโกงดัง ลอกลอบนำเข้าเครื่องมือแพทย์และวัตถุอันตราย
พลตำรวจตรีอนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา แถลงผลการตรวจค้นโกดัง 2 แห่ง ย่านบางกะปิ กรุงเทพมหานคร หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำเข้าเครื่องมือแพทย์และวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. พบของกลาง ชุดตรวจ ATK , หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ , ชุด PPE , เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว , เทอร์โมมิเตอร์ , ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และป้ายห้อยคอกันไวรัส จำนวนมาก รวมมูลค่าของกลางกว่า 5 ล้านบาท
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีผู้ฉวยโอกาสลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวกับโรคโควิด19 โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. ทาง บก.ปคบ. และ อย.หนูร่วมกันสืบสวนหาข้อมูลกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีบริษัทนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง แจ้งมาว่ามีการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังกล่าวขายตามท้องตลาด จึงจนกระทั่งสืบทราบเส้นทางขบวนการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขยายผลจนทราบว่า มีการลักลอบนำเข้าชุดตรวจ ATK และหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ไปเก็บไว้ที่โกดังสินค้า 2 แห่ง ย่านบางกะปิ จึงเข้าตรวจค้นและพบของกลางเป็นจำนวนมากดังกล่าว
ดำเนินคดีความผิดพ.ร.บ. เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 นำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้จดทะเบียนสถานประกอบการ, นำเข้าเครื่องมือแพทย์ปลอม, ขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ผ่านการประเมินเทคโนโลยี และขายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับใบรับแจ้งรายการละเอียด มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับผิด พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 นำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยมิได้ขออนุญาต, นำเข้าวัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน และนำเข้าวัตถุอันตรายที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พลตำรวจตรีอนันต์ ฝากเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ควรเลือกซื้อจากร้านขายยา หรือร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือร้านค้าที่เชื่อถือได้ ก่อนซื้อขอให้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตกับเว็บไซต์ อย. ก่อน และขอเตือนผู้ที่ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด หากพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือ เพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค
ด้านเภสัชกรหญิงสุภัทร เปิดเผยว่า จะดำเนินการเชิงรุก ทั้งการเฝ้าระวังและปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นเช่นนี้ต่อเนื่อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าชุดตรวจโควิด หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ถุงมือทางการแพทย์ แอลกอฮอล์เจล และผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ที่ อย.อนุญาต มีคุณภาพและความปลอดภัย และขอประชาชนให้ความสำคัญกับการอ่านฉลากและตรวจสอบเลข อย. ทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หัวข้อ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ หรือไลน์ @FdaThai และหากพบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าจะผิดกฎหมาย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรืออีเมล [email protected]
อย่าวไรก็ตาม การตรวจค้นครั้งนี้ ของกลางส่วนใหญ่จะไม่รับอนุญาตจาก อย.และปลอมแปลงขึ้นมา แต่ที่น่าสนใจคือ ป้ายห้อยคอกันไวรัส หรือ Virus shut out ที่มีการตรวจยึดได้จำนวนถึง 16,000 ชิ้น จึงอยากชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ป้ายห้อยคอกันไวรัสดังกล่าว ทำจากครอรีนไดออกไซด์บรรจุซอง แล้วทำเป็นป้ายห้อยคอ โดยผู้ใช้มีความเชื่อว่าจะสามารถป้องกันไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศบริเวณรอบตัวได้ แต่ในความจริงแล้วป้ายห้อยคอกันไวรัสดังกล่าว ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกัน โควิด-19 หรือไวรัสชนิดอื่นได้แต่อย่างใด อย่าหลงเชื่อซื้อมาใช้ เพราะห้อยคอไปก็ไม่ประโยชน์ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews