ปศุสัตว์ ชี้แจงแล้ว หลังโผล่คลิปการฉีดฮอร์โมนเร่งโตในไก่ เสี่ยงเป็นมะเร็ง
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ชี้แจงแล้ว หลังมีข่าวลือ ฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตในไก่ ส่งผลทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง และมีการแชร์คลิปการฉีดยาในไก่ทางสื่อโซเชียล
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า จากกรณีเพจใน Facebook กล่าวว่า มีการฉีดสารอะนาโบลิกสเตียรอยด์ (สารสังเคราะห์จากฮอร์โมน) ยาปฏิชีวนะ และฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตในไก่ ส่งผลทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง และมีการแชร์คลิปการฉีดยาในไก่ทางสื่อโซเชียลต่อๆ กัน โดยอ้างว่าเป็นการฉีดฮอร์โมนเร่งโตนั้น
กรมปศุสัตว์ขอเรียนว่าเป็นข่าวปลอม ไม่มีข้อมูลความจริง ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงจากกรมปศุสัตว์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญต่างๆ หลายครั้งแล้ว ผู้บริโภคบางกลุ่มยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องและติดภาพเก่าๆ กันอยู่ คลิปที่เห็นนั้นไม่ได้เกิดในประเทศไทย ซึ่งโดยข้อเท็จจริงในปัจจุบันการเลี้ยงไก่ในประเทศไทยเป็นระบบอุตสาหกรรม ไม่มีการใช้ฮอร์โมนและการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างผิดวัตถุประสงค์เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงไก่แล้ว จากการเลี้ยงไก่ในปัจจุบันมีการพัฒนาด้านคุณภาพมาตรฐานระบบการเลี้ยงและปรับปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยให้ไก่เติบโตได้ดีและมีสุขภาพแข็งแรง ประกอบด้วย การนำเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงพันธุ์ไก่ให้เป็นสายพันธุ์ที่โตเร็วมีความทนทานต่อโรค การมีระบบการป้องกันโรคที่ดี การเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดที่ทันสมัย มีการจัดทำฟาร์มมาตรฐาน GAP
รวมทั้ง เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตอาหารที่มีสารอาหารเหมาะสมกับช่วงวัยของการเติบโตและความต้องการของไก่ สามารถคำนวณและผสมอาหารสำเร็จรูปให้ได้สารอาหารตรงตามความต้องการของสายพันธุ์ ทำให้ไก่มีสุขภาพดีและเจริญเติบโตได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องเสริมสารเร่งโตและใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ในฟาร์มมาตรฐาน GAP ทุกฟาร์มต้องมีสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มในการควบคุมกำกับดูแลในการตรวจสอบทั้งด้านสุขภาพสัตว์ ควบคุมการใช้ยา สารเคมีและการจัดการด้านอื่นๆ ในฟาร์มด้วย ทำให้มั่นใจยืนยันได้ว่าไม่มีการใช้ฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะอย่างผิดวัตถุประสงค์และไม่สมเหตุสมผล เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงไก่ไทยแน่นอน 100%
นอกจากนี้ ประเทศไทยมีกฎหมายด้านความปลอดภัยอาหาร กำหนดว่าการใช้ฮอร์โมนในไก่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และห้ามการใช้สารเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงสัตว์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ 417/2528 ลงวันที่ 23 ก.ย.2529 ให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาสำหรับสัตว์ Hexoestrol ของฮอร์โมนที่ใช้ในสัตว์ปีก หากมีการลักลอบใช้ถือว่าผิดกฎหมาย และหากนับจากวันที่ประกาศจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นระยะเวลาเกือบ 35 ปีแล้วที่มีการใช้กฎหมายนี้ โดยผิดทั้งต่อกฎหมายของประเทศไทยและขัดต่อข้อบังคับของสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มประเทศคู่ค้าที่สำคัญในการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ติดอันดับ TOP 5 ของโลกต่อเนื่อง มีประเทศผู้นำเข้าหลักคือ ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป
เนื่องจากความเชื่อมั่นของประเทศคู่ค้าต่อสินค้าปศุสัตว์ของไทยที่มีความปลอดภัยได้คุณภาพมาตรฐานสากลและระดับโลก ปลอดจากสารตกค้าง ไม่มีการใช้ฮอร์โมนในการเร่งโต และไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่สมเหตุสมผลและผิดวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง ทำให้สินค้าไก่จากไทยเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดโลก โดยปัจจุบันปี 64 ล่าสุดเฉพาะสินค้าไก่และผลิตภัณฑ์มีปริมาณการส่งออกแล้วรวม 746,969 ตัน คิดเป็นมูลค่า 83,920.62 ล้านบาท (ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูป 432,952 ตัน มูลค่า 58,345.08 ล้านบาท และเนื้อไก่แช่เย็น/แช่แข็ง 314,017 ตัน มูลค่า 25,575.54 ล้านบาท)
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ตั้งแต่อาหารสัตว์ ฟาร์ม โรงฆ่า โรงแปรรูป และสถานที่จำหน่ายตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews