หนุมานลุยปราบอิทธิพลเถื่อนเมืองคอน ชาวบ้านพกปืนเกือบทุกหลัง
ปฏิบัติการ "หนุมาน ปราบพาลเมืองคอน" ลุยปราบอิทธิพลเถื่อนก่อนการเลือกตั้ง โดยพบว่ามีชาวบ้านพกปืนเกือบทุกหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่ ศูนย์ประสานงานส่วนหน้า กก.5 บก.ป. อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.จิระภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราละย รองผบก.ป.พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5.บก.ป. พ.ต.ท.ฌัทกฤช น้อยคำปัน ,พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกชื่น รอง ผกก.5 บก.ป. ร่วมกันระดมพลปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. และชุดปฏิบัติการพิเศษ"หนุมาน กองปราบ" รวม 90 นาย เปิดปฏิบัติการ "หนุมาน ปราบพาลเมืองคอน" เข้าตรวจค้น 14 จุด ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ครอบคลุมพื้นที่ 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.ท่าศาลา อ.พิปูน อ.ทุ่งใหญ่ อ.นาบอน อ.นพพิตำ อ.ลานสกา อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.พรหมคีรี เพื่อกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง แก๊งปล่อยเงินกู้ในพื้นที่
จากผลปฏิบัติการดังกล่าว สามารถจับกุมผู้กระทำผิดจำนวน 3 ราย พร้อมตรวจยึดปืนจำนวนรวม 12 กระบอก แบ่งเป็นปืนสั้นมีทะเบียน 5 กระบอก ปืนสั้นแบบไม่มีทะเบียน 4 กระบอก ปืนยาวมีทะเบียน 3 กระบอก เครื่องกระสุนขนาดต่างๆ 171 นัด รถยนต์ 13 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
ทั้งนี้ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายที่ถูกจับกุมนั้นเบื้องต้นประกอบด้วย ประกอบด้วย นายเอกพงศ์ อินทวิมล อายุ 44 ปี ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืน 1 กระบอกและเครื่องกระสุน นายภูวดล รักถิ่นเดิม อายุ 33 ปี ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ไม่มีทะเบียน ขนาด .380 จำนวน 2 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืน จำนวน 26 นัด และ นายสามารถ สันเสมศรี อายุ 48 ปี ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ไม่มีทะเบียน ขนาด .380 จำนวน 2 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืน จำนวน 33 นัด ได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่แห่งหนึ่งทั้งหมดถูกจับกุมได้ใน จ.นครศรีธรรมราช
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีนโยบายกวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง แก๊งปล่อยเงินกู้ให้สิ้นซาก ก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังใกล้จะมาถึง เพื่อป้องปรามและลดปัญหาอาชญากรรมความรุนแรงในพื้นที่ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีแนวโน้มการเกิดเหตุคดีอุกฉกรรจ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทาง พล.ต.ท.จิรภพ จึงสั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามเปิดปฏิบัติการดังกล่าว จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 3 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนของกลางและเครื่องกระสุนได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ โดยรับว่าปืนและเครื่องกระสุนปืนเถื่อนเหล่านี้สั่งซื้อมาจากกลุ่มลับขายปืนเถื่อนออนไลน์ โดยนายเอกพงศ์ จะถูกดำเนินคดีในข้อหา “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ส่วนนายภูวดลและนายสามารถ จะถูกดำเนินคดีในข้อหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดแยกย้ายส่งตำรวจท้องที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมกับขยายผลตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีอุกฉกรรจ์ที่ผ่านๆมาหรือไม่ เนื่องจากแนวทางสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับเครือข่ายซุ้มมือปืนต่างๆในพื้นที่ รวมถึงเร่งขยายผลเอาผิดกลุ่มเครือข่ายค้าปืนเถื่อนออนไลน์ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพื้นที่เป้าหมายสำคัญของปฏิบัติการดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ อ.พิปูน ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากแนวทางสืบสวนพบว่ามีพฤติกรรมตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องที่ รวมถึงเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าคนตายมาแล้ว 2 คดี แต่จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักไม่พบตัวผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว พบเพียงเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มีสถิติแนวโน้มการเกิดคดีอุกฉกรรจ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากผู้คนส่วนใหญ่ในพื้นที่ล้วนมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองเกือบทุกครัวเรือน แม้ส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม เห็นได้ชัดจากผลการตรวจค้น 14 จุดเป้าหมายในครั้งนี้ ที่พบว่ามีถึง 12 จุด ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบเจออาวุธปืน