หนุ่มโวยโดนถีบรถ "ลากไปรุม" ก่อนโดนตำรวจตอกหน้าแฉความจริง
หนุ่มโวยโดนถีบรถ ลากไปรุม ก่อนตำรวจออกแถลงความจริงสวนทำคดีพลิก เป็นฝ่ายผิดเองทำเอาชาวเน็ตซ้ำสมควรโดนแล้ว
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาชี้แจงความจริงอีกด้าน ตอกกลับหนุ่มโพสต์คลิปโวย โดนตำรวจถีบรถล้มก่อนลากไปรุมทำร้ายร่างกาย หลังคำชี้แจงถูกเผยแพร่ทำให้เกิดกระแสตีกลับไปรุมจวกหนุ่มคนโพสต์ทันที
โดยตอนแรกเขาได้โพสต์คลิปขณะโดนตำรวจจับพร้อมมีการระบุข้อความว่า "โหนกระแสไม่ต้องเข้านะครับ ทำเกินไปหรือป่าว ลพบุรี ถีบรถเสร็จรุมต่อยซ้ำ เซฟผมด้วยนะครับ เพื่อความสบายใจนะ จบประเด็นนะคับ ไม่เข้าข้างใคร บางคนรู้ไม่จริงแค่ดูข่าวแถลง ก็เข้าใจ"
จากนั้น เพจเฟซบุ๊กสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี ภ.จว.ลพบุรี ได้โพสต์ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น งานนี้ต้องบอกเลยว่าทำเอาคดีพลิกเลยทีเดียว โดยระบุว่าเนื่องด้วยเหตุการณ์ การแชร์คลิปวีดีโอลงในเพจของ แจ้งเหตุลพบุรี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 7 นาย ซึ่งทางสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรีได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรีจริง
ตามวันเวลาที่จับกุมขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจขันวินัยจราจร ภายในเขตศาลพระกาฬ ได้พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีแดง ซึ่งมี นายวิรุตม์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ขับขี่เบิ้ลเครื่องรถเสียงดังตลอดทางมาจากฝั่งท่าหิน เข้าเขต เมืองลพบุรี ศาลพระกาฬ ถนนนารายณ์มหาราช
ชุดจับกุมได้เรียกให้หยุดรถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดแล้วได้ขับขี่หลบหนีไปทางวงเวียนศรีสุริโยทัย โดยขับปาดซ้าย ปาดขวาด้วยความเร็วจนเกือบจะเกิดอันตรายต่อยานพาหนะผู้อื่นที่ขับขี่ตามเส้นทางดังกล่าว เมื่อถึงวงเวียนศรีสุริโยทัยแล้วได้ขับขี่หลบหนีไปทางหลัง บขส.ลพบุรี ด้วยความเร็ว แล้วได้ย้อนกลับไปเส้นทางรามเดโชไปถึงประตูผีเลี้ยวขวาหลบหนีมา วัดตองปุ เข้าหมู่บ้านสะพานอิฐแล้วเลี้ยวขวาย้อนศรเส้นทางสายคันคลองบ้านหมี่มุ่งหน้าสะพาน6
แล้วขับขี่ย้อนศรมาถึงแยกสัญญาณไฟจราจรสะพาน 6 แล้วเลี้ยวซ้ายย้อนศรข้ามสะพานตามเส้นทางนเรศวร-สะพาน6 และชุดจับกุมดังกล่าวสามารถเรียกหยุดรถได้เลยหน้าสนามกอล์ฟ มทบ.13(จอมพล ป.)
ซึ่งตามคลิปวีดีโอดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้ นายวิรุตม์ ให้หยุดรถแต่นายวิรุตม์ไม่หยุดรถ และขัดขืน เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ที่นายวิรุตม์ขับมานั้นล้มลง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมโดยเข้าควบคุมตัวนายวิรุตม์ นายวิรุตม์ยังคงขัดขืน จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีพฤติกรรมอันควรสงสัย จึงจำเป็นต้องใช้กำลังในการจับกุมและเข้าค้นตัว นายวิรุตม์
และจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามข้อมูล นายวิรุตม์นั้นก็มีพฤติกรรมโวยวาย ส่งเสียงดัง คล้ายบุคคลที่ได้เสพสารเสพติดมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัว นายวิรุตม์ฯ ไปโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี ซึ่งผลการตรวจพบ สารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของ นายวิรุตม์ จึงได้นำตัวนายวิรุตม์ ส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขอบคุณ สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี ภ.จว.ลพบุรี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews