แม่หนุ่มเทงานแต่ง ยัน ลูกขอเลื่อนแล้ว พร้อมเผยค่าสินสอดแรกที่สู้ไม่ไหว
แม่เจ้าบ่าวเทงานแต่งเปิดใจ บอกลูกชายให้ขอฝ่ายหญิงเลื่อนงานแต่งแล้ว แต่สุดท้ายไม่เป็นผล ก่อนเผยสินสอดจนต้องขอต่อรองลดลงมาเพราะสู้ไม่ไหว
กรณีเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เมื่อคู่บ่าวสาวที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ เตรียมงานทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่กลับถูกเทงานแต่งฟ้าผ่า ครอบครัวฝ่ายเจ้าบ่าวขอยกเลิกงานแต่ง ด้วยเหตุผลไม่มีเงินสินสอดขณะที่ตัวเจ้าสาวติดต่อเจ้าบ่าวไม่ได้ ทำให้คิดสั้นฆ่าตัวตาย หลายคนคาใจพุ่งเป้าไปที่แม่เจ้าสาวทำนองว่าเรียกสินสอดแพงเกินไปหรือไม่
ฝ่ายน้องการ์ตูน เจ้าสาวที่ถูกเทงานแต่ง ได้ออกมาเปิดใจว่า ตนไม่คิดว่าฝ่ายเจ้าบ่าวจะกล้าทำเช่นนี้เพราะทั้งคู่คบกันมานาน 9 ปี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันรุนแรง ด้านแม่ของน้องการ์ตูนก็ได้มีการถามแล้วว่าสินสอด 6 แสน ทอง 5 บาท นั้นไหวหรือไม่ ตัวเจ้าบ่าวตอบว่าไหวจึงได้จัดเตรียมงานแต่งขึ้น น้องการ์ตูนเผยว่าที่ออกมาเพราะต้องการทวงศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง นอกจากนี้ตนยังทำให้ พ่อแม่พี่น้อง ครอบครัว วงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งตัวน้องการ์ตูนเองได้ทิ้งท้ายว่าตนให้อภัยแต่ไม่กลับไปเด็ดขาด แม้จะยังรักอยู่ พร้อมฝากถึงอดีตเจ้าบ่าวให้ปรากฎตัวเพื่อที่จะได้หาข้อตกลงกัน
และทางด้าน นางสาวรุ่งนภา แม่ของนายกฤษฎา หรือ เกม เจ้าบ่าวเทงานแต่งได้เปิดเผยว่า แม่และพ่อรับรู้ว่าทั้งคู่คบกัน ไม่เคยขัดใจอะไรลูก ตามใจลูก ไม่ว่าลูกจะทำอะไร และจากภายนอกที่เห็น ก็เห็นว่าทั้งคู่ก็รักกันดี ทั้งคู่คบกันนั้นตนก็ไม่เคยเข้าไปวุ่นวายอะไรกับลูก ในช่วงที่น้องเกมเข้ามาคุยเรื่องที่จะให้ไปสู่ขอฝ่ายหญิงนั้นตนเองก็ขอผลัดลูกไปหลายๆ ครั้งเพราะ พ่อกับแม่ยังไม่พร้อม ซึ่งน้องเกมก็เข้าใจเพราะน้องเกมทำงานที่บ้านก็จะรู้เรื่องงาน เรื่องการเงินของที่บ้านเป็นอย่างดี และตนเองได้บอกไปว่าถ้าทุกอย่างพร้อม สินสอดพร้อมก็จะไปสู่ขอ และจัดการเรื่องแต่งงาน แต่ไม่เคยห้ามไม่ให้คบกัน
ล่าสุด นั้นทางน้องเกมได้มาบอกตนเองว่าให้ไปพูด ไปคุยกับทางฝ่ายหญิง เพราะฝ่ายหญิงเรียกไม่แพง เพราะทางแม่ฝ่ายหญิงได้บอกกับน้องเกมว่าแล้วแต่ฝ่ายชายจะให้ เพราะรู้ว่าทางครอบครัวเราอยู่กันยังไง สภาพครอบครัวเป็นยังไง ก็เลยตัดสินใจไปพูดคุยกับฝ่ายหญิง เมื่อไปพบทางฝ่ายหญิงเรียกสินสอดเป็นจำนวนเงินและทองเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งตนเองก็ได้ต่อรองในส่วนของสินสอดเพราะเป็นจำนวนเงินที่มาก เพราะทางครอบครัวเราก็หาเช้ากินค่ำทางฝ่ายหญิงก็ได้ลดให้
และเมื่อกลับมาจากที่ไปคุยกับฝ่ายหญิง ตนเองและสามีก็ได้บอกกับลูกว่า ว่าช่วงนี้เป็นช่วงโควิดจัดงานอะไรไม่ได้ รายได้ก็ไม่ค่อยดี ขอผลัดลูกไปสักปีหน้า และค่อยจัดงานใหญ่ทีเดียว แค่ขอเลื่อนไม่ได้ยกเลิกงาน และในส่วนที่จะไปจดทะเบียนกันนั้น ทางพ่อและแม่ไม่รู้เรื่องเพราะไม่ได้มาปรึกษาหรือบอกกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น ว่าจะทำอะไร
แต่ในช่วงที่ไปถ่ายพรีเวดดิ้งนั้น น้องเกมก็ได้มาเล่าให้แม่ฟัง โดยตนเองก็ได้เตือนลูกไปว่า ทำอะไรให้ประหยัดๆ อะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าไปทำ เพราะเงินทองไม่มี และในส่วนเรื่องงานแต่งงานนั้น พ่อกับแม่ขอเลื่อนไปก่อนเพราะยังเงินสินสอดยังไม่ครบ และในช่วงนี้เป็นช่วงโควิดการจัดงานในช่วงนี้ก็ลำบากและทางน้องเกมคงไปบอกฝ่ายหญิง และฝ่ายหญิงได้ลงเฟซบุ๊กว่า"ขอเลื่อนงานแต่งงานนะคะ" เมื่อพ่อและแม่เห็นก็สบายใจเพราะลูกเข้าใจ แต่เรื่องที่จะจดทะเบียนกันเอาสินสอดไปให้นั้น ทางน้องเกมไม่ได้มาคุยมาปรึกษา จนมารู้เมื่อแม่ทางฝ่ายหญิงโทรมาต่อว่าตนเองเรื่องการเลื่อนงานแต่งงาน
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองได้คุยกับลูกว่าจะเอายังไงต่อ น้องเกมได้บอกว่าขอจบทุกอย่าง ไม่ไปต่อ แต่ตนเองก็ได้สังเกตดูลูกมาโดยตลอดเห็นว่าลูกหน้าตาไม่ยิ้มแย้ม ไม่ค่อยพูดคุยก็รู้ว่าลูกคงมีความทุกข์มากแต่ไม่ยอมเล่าให้ฟังและในวันที่ 12 พ.ย. ที่น้องหายไป ทางบ้านได้ตามหา วันที่ไปเจอน้องเกมนั้น ตัวน้องได้บอกว่าสิ่งที่ตนเองทำไปการคิดสั้นฆ่าตัวตายนั้น ไม่ได้ทำไปเพราะประชดพ่อและแม่ แต่แค่เพียงต้องการจบปัญหาทั้งหมดที่ตัวเอง เรื่องราวทั้งหมดไม่อยากให้พ่อและแม่รับรู้เรื่องไม่ดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews