เปิดจดหมาย นร.โรงเรียนประจำ หลัง เด็ก ม.1 หลบหนีไปอยู่ในท่อ 3 วัน
จดหมายจากความรู้สึก นร.โรงเรียนประจำ หลังเพื่อนหนีไปอยู่ในท่อ ยิ่งอ่านยิ่งสะเทือนใจ น้องๆพ้อถูกใช้งานอย่างหนักตั้งแต่เช้า แถมไม่ส่งเสริมเรื่องการศึกษา
กรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจัดกำลังตามหานักเรียน ม.1 โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ใน จ.ลพบุรีที่หายตัวไป 3 วัน ซึ่งทั้ง 2 คนหนีจากโรงเรียนประจำมาซ่อนตัว ก่อนมีพลเมืองดีมาพบเจอขณะขี่รถผ่าน เห็นเด็กทั้งสองวิ่งจากถนนหนีลงไปแอบในท่อน้ำ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตามไปก็พบเด็กนักเรียนอยู่ในสภาพหิวโซ จึงพาตัวเด็กทั้งสองขึ้นมาจากท่อน้ำก็ได้หาข้าวให้กินและสอบถามถึงสาเหตุที่หนีโรงเรียนประจำครั้งนี้ ซึ่งเด็กเล่าว่าที่หนีออกมาเพราะโดนใช้งานหนัก รวมทั้งถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำ
ต่อมาวันที่ 25 พ.ย. 2564 มีการเผยแพร่จดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนโดยเด็กในโรงเรียนประจำแห่งนั้น เล่าถึงความทุกข์ในโรงเรียน ซึ่งบอกว่าเด็กๆหลายคนก็รู้สึกอึดอัด ถูกใช้งานอย่างหนักตั้งแต่เช้ายันเย็น และขอให้จดหมายนี้เป็นตัวแทนความรู้สึกของนักเรียนในโรงเรียนประจำนี้
โดยใน จดหมายฉบับนี้เผยความในใจของนร.หลายคนที่รู้สึกอัดอั้นกับระบบโรงเรียน ถูกบังคับทำงานตั้งแต่เช้ายันเย็น ทุกข์ใจ-หาความสุขไม่ได้ ครูไม่ส่งเสริมระบบศึกษา พร้อมทิ้งท้าย "นี่คือความรู้สึกของพวกหนู และขอให้จบลงที่กระดาษแผ่นนี้"
เนื้อความในจดหมายได้เขียนระบุเอาไว้ว่า "ขอให้กระดาษแผ่นนี้เป็นตัวแทนของพวกหนู
หนูขอพูดทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างในโรงเรียนนี้ ที่หนูอดทน อัดอั้น อึดอัด ระบบในโรงเรียนนี้มันแย่ โรงเรียนน่าอยู่มาก ๆ นะคะ มันน่าอยู่จริง แต่ที่มันไม่น่าอยู่ก็เพราะระบบของโรงเรียนที่มันแย่ ๆ เช่น
การพัฒนาหรือการทำงานของเด็ก พวกหนูทำได้นะคะ แต่มันหนักจริง ๆ ค่ะ มือเป็นตาปลา มือแข็ง มือด้าน หนูใช้ความอดทนกันมาก ๆ และ ผอ. ยังมีข้อเสนอแนะให้เด็ก ม.6 ทำงานโรงครัวตั้งแต่ 06.00 น. - 18.00 น. และไม่ได้เรียนได้เงินวันละ 150 บาท มันไม่คุ้มต่อค่าแรงและความเหนื่อย
การเรียนการสอบ เด็ก ๆ ไม่ค่อยได้เรียนรู้หรือเรียนตามหลัก ตามวิชาการ โรงเรียนนี้เน้นการเกษตร แทบไม่มีความรู้อะไรเลย
ให้เด็กไว้ผมสั้นทั้งโรงเรียน ไม่มีใครได้ไว้ผมยาว
การใช้เทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ให้เด็ก ๆ ใช้ เช่น โทรศัพท์ เตารีด ฯลฯ ถ้าเจออาจจะโดนพักการเรียนและโดนยึดโทรศัพท์ และไม่ได้คืนเลยก็มีเยอะด้วย
ความทุกข์ของเด็กแต่ละคนมีกันเกือบหมด อึดอัด หาความสุขแทบไม่ได้ สังคมแย่ ๆ ก็คงจะมีทุกโรงเรียน อยู่ที่จะมากจะน้อยแล้วแต่ความอดทน
กีฬาก็ไม่ได้ให้เด็กออกมาเล่น ไม่ส่งเสริมสักเท่าไหร่ "
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews