เปิดหลักฐาน 9 นักโทษใช้เเหกคุก ลือสะพัดใช้ใบเลื่อยเหล็กใบละเเสน

 จากกรณีเหตุนักโทษเเหกคุกมทบ.11 เรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11)  ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม ได้เลื่อยลูกกรงหลบหนี 9 ราย ข่าวล่าสุดติดตามตัวจับได้แล้ว 6  ราย ยังเหลืออีก3ราย โดยการใช้ใบเลื่อยตัดลูกกรงหนี  พบข้อมูลเพิ่มเติม ใบเลื่อยเหล็กที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งหักเป็น 2 ท่อน จนสังคมตั้งข้อสงสัยจนเกิดข่าวลือกันว่า ใบเลื่อยใบละ1เเสนบาท ใบเลื่อยดังกล่าวมูลค่าสูงถึงใบละ1เเสนบาท จริงหรือไม่

รายชื่อ 9 นักโทษหลบหนีไปจากเรือนนอนชาย(พลเรือน)  เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 

1.นายวัชระ นะโมมั่น อายุ 28 ปี ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
2.นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
3.นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์
4.นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์
5.นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
6.นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
7.นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
8.นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด
9.นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติด

อัพเดทล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 12 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนักโทษที่หลบหนีมาได้แล้ว 6 คน ชุดแรก 2 คน นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี โดยจับได้ที่ริมถนนใกล้โรงเรียนเทศบาล 4 อ.เมือง จ.นครปฐม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี จับกุมได้ใกล้ที่เกิดเหตุ หมู่ 6 ต.บ่อพลับ ต่อมาจับกุม นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี จับได้ที่ริมถนน หมู่ 2 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี และ. สามารถจับกุม นายวัชระ นะโมมั่น อายุ 28 ปี ได้ในบ้านเลขที่ 148 หมู่ 2 ต.ไผ่หูช้าง อ.บางเลน จ.นครปฐม

ข่าวล่าสุด เจ้าหน้าที่ตามจับ นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ความผิดฐาน พรบ.ยาเสพติดได้เเล้ว ตอนนี้ยังเหลือนักโทษเเหกคุกอีก3 ราย ที่ยังหลบหนีอยู่

-เช็ก ธ.ก.ส. เริ่มโอนเงินลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพข้าว ช่วยเหลือชาวนา
-"คำศัพท์คอมพิวเตอร์" เหล่านี้ "ราชบัณฑิตสถาน" ไม่ได้บัญญัติ
-สธ. เผยอย่าเพิ่งกังวล "โอไมครอน" ทั่วโลกติดยังไม่ถึง 1%

 เมื่อวันที่11 ธ.ค. 64 ม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วยชุดคลี่คลายคดีได้นำทีมสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหาที่หลบหนี หลังเข้ามอบตัวโดยญาตินำส่งและมีหมายจับตามตัว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดย ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้เข้าสอบปากคำ นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี นักโทษชาย ตามความผิด พรบ.ยาเสพติด และนายนัถกร มาตรวัดแสง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ตามหมายจับเลขที่ 349/2564 ลงวันที่ 11 ธ.ค. 64 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาลโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป

 

ซึ่งทั้งคู่ยังได้ให้การในเบื้องต้นโดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเก็บข้อมูล และทราบชื่อไม่ตรงกับที่ได้แจ้งไว้ 2 รายก่อน ซึ่งทั้งนายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี และนายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ยังคงอยู่ในระหว่างการหลบหนี ร่วมกันพวกอีก 7 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเร่งติดตามตัวอยู่ 

ผู้ต้องทางที่หลบหนีทั้ง 7 คนไม่มีคดีทางการเมือง แต่ 2 คนที่ได้ตัวมาเคยก่อคดีและมีคดีติดตัวมาก่อน และทั้ง 9 คนไม่มีใครต้องโทษถึงขั้นประหารชีวิตแนวทางในการก่อเหตุนั้นตอนนี้สอบปากคำแต่ยังไม่ให้ได้ข้อมูลชัดจากทั้งคู่ซึ่งต้องรอข้อมูลจากพยานในเรือนจำและหลักฐานที่พบจากกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบอีกครั้งหนึ่งด้วย” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กล่าวปิดท้าย

ด้าน พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ที่หลบหนีเป็นการนำผู้ต้องหาที่จะต้องมีการกักตัวในมาตรการโควิด-19 ซึ่งได้บูรณาการร่วมกับเรือนจำ มทบ.11 เพื่อนำมาพักในการกักตัวดูผลของการตรวจเชื้อ โดยได้เข้าควบคุมตัวมาแล้ว 21 วันและเตรียมจะส่งเข้าเรือนจำกลางนครปฐมในวันนี้ แต่ได้หลบหนีเสียก่อน 
 
 ส่วนกรณีใบเลื่อยที่เข้าไปในเรือนจำได้อย่างไร เบื้องต้นอาจมีใครโยนเข้าไปให้ หรือจะนำเข้ามาเอง หรืออาจมีเจ้าหน้าที่นำเข้าไป ส่วนที่มีข้อสงสัยใบเลื่อยใบละ 1 แสนบาทนั้น เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันจะต้องไปสืบสวนกันอีกครั้ง ใบละ 1 แสน ไม่น่าจะถึงขนาดนั้น

ทั้งนี้ผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้งหมด ใช้วิธีการแหกขังออกไปและปีนข้ามสิ่งกีดขวางออกไป แต่กระบวนการต่างๆ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยังเปิดเผยไม่ได้มากนัก  สำหรับประเด็นในการหลบหนียังไม่สามรถระบุว่าใครเป็นหัวหน้าทีมในการก่อเหตุและยังไม่ทราบว่าใครเป็นกลไกในการนำใบเลื่อยไปให้ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโดยจะมีการสอบทั้งผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องเดียวกันรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมอีกครั้งร่วมกับการติดตามตัวผู้ต้องหาเพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำซ้อนอีกด้วย

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews