สังคม

heading-สังคม

กพฐ. ตอบแล้ว หลังว่อนข่าว ตัด วิชาพระพุทธศาสนา ออกจากระบบการศึกษาปี 65

17 ธ.ค. 2564 | 12:40 น.
กพฐ. ตอบแล้ว หลังว่อนข่าว ตัด วิชาพระพุทธศาสนา ออกจากระบบการศึกษาปี 65

ตามที่มีข้อมูลปรากฏในโลกออนไลน์ ในประเด็นเรื่อง "กพฐ. เตรียมตัดวิชาพระพุทธศาสนาออกจากระบบการศึกษาไทยในปี 65" ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ แล้ว

จากกรณี มีข่าวที่ถูกแชร์กันอย่างมากในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับความกังวลในเรื่องการจัดการเรียนการสอน วิชาพระพุทธศาสนา และศาสนาต่าง ๆ ว่าจะถูกตัดออกจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในปี 65 นั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้ตัดวิชาพระพุทธศาสนาหรือศาสนาต่าง ๆ ให้หายไปจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่อย่างใด

กพฐ.แจงแล้ว หลังว่อน เตรียมตัด วิชาพระพุทธศาสนา ออกจากระบบการศึกษาปี 65  

ด้วยเพราะ สพฐ. ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการเรียนรู้ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา รวมถึงศาสนาต่าง ๆ เสมอมา โดยเน้นย้ำว่านักเรียนทุกคนจำเป็นต้องรู้ เข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญ และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างสอดคล้องกับแนวคิดพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าผู้เรียนจะสามารถนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเอง เป็นผู้ยึดมั่นในความดี มีค่านิยมที่ดีงาม ให้ความสำคัญต่อสังคมและประโยชน์ส่วนรวม รวมถึงอยู่ร่วมกับผู้อื่นบนความแตกต่างและหลากหลายได้อย่างเป็นปกติสุข

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดให้นักเรียนทุกคน ต้องเรียนเนื้อหาตามที่กำหนดไว้ในสาระการเรียนรู้แกนกลางให้ครบถ้วนทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยวิชาพระพุทธศาสนาและศาสนาต่าง ๆ ถูกกำหนดเป็นสาระการเรียนรู้แกนกลางในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม โดยนักเรียนจะเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและศาสนาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งถือว่าเป็นชั้นปีแรกของการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (ไม่นับการศึกษาระดับปฐมวัย) จนถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 อย่างต่อเนื่อง โดย สพฐ. ไม่เคยยกเลิกสาระการเรียนรู้แกนกลางที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา แต่อย่างใด และได้ให้ความสำคัญกับเนื้อหาสาระในวิชาพระพุทธศาสนาโดยสาระการเรียนรู้แกนกลาง และตัวชี้วัดพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับชั้น ป. 1–6 จำนวน 60 ตัวชี้วัด ระดับชั้น ม. 1–3 จำนวน 49 ตัวชี้วัด และระดับชั้น ม. 4–6 จำนวน 27 ตัวชี้วัด รวมทั้งสิ้น 136 ตัวชี้วัด

 

หากพิจารณาเปรียบเทียบจำนวนตัวชี้วัดกับสาระอื่น ๆ แล้ว พบว่าสาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มีจำนวนตัวชี้วัดมากที่สุด รองลงมาคือ สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ มี 81 ตัวชี้วัด สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม มี 72 ตัวชี้วัด สาระที่ 5 ภูมิศาสตร์ มี 68 ตัวชี้วัด และสาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มี 62 ตัวชี้วัด ตามลำดับ

เนื่องจาก สพฐ. พิจารณาแล้วเห็นว่าสาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มีเนื้อหาที่นักเรียนจำเป็นต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจในหลายประเด็น การเรียนการสอนจึงต้องมีเนื้อหาที่ลงลึกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความตระหนักและปฏิบัติเป็นศาสนิกชนที่ดีได้ ได้แก่ ความสำคัญของศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา ศรัทธาที่ถูกต้อง การยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักธรรม การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ

กพฐ.แจงแล้ว หลังว่อน เตรียมตัด วิชาพระพุทธศาสนา ออกจากระบบการศึกษาปี 65

ทั้งนี้ การกำหนดนโยบายของ สพฐ. ที่ให้พระพุทธศาสนา ศาสนาต่าง ๆ ศีลธรรม และจริยธรรม เป็นสาระการเรียนรู้แกนกลาง ส่งผลให้หน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับตั้งแต่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานส่วนท้องถิ่น และโรงเรียน ต้องนำสาระการเรียนรู้แกนกลางที่กำหนดไปใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งสถานศึกษาสามารถจัดทำเป็นหลักสูตรสถานศึกษาโดยกำหนดรหัสวิชา ชื่อวิชา และจำนวนชั่วโมงเรียนได้ตามบริบทของสถานศึกษา แต่ผู้เรียนจะต้องเรียนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาให้ครบทุกตัวชี้วัดภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ แม้แต่การจัดหลักสูตรโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย) ที่มุ่งเน้นการพัฒนานักเรียนที่มีความโดดเด่นด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ก็ยังกำหนดให้วิชาพระพุทธศาสนาเป็นวิชาพื้นฐานที่นักเรียนต้องเรียนในทุกภาคเรียนอย่างต่อเนื่อง 

ประกอบด้วยวิชาพระพุทธศาสนา 1 ถึงวิชาพระพุทธศาสนา 6 หรือโรงเรียนกีฬาประจำจังหวัด ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนทางด้านการกีฬา ก็ได้มีการกำหนดเนื้อหาด้านพระพุทธศาสนา ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม ไว้ในโครงสร้างหลักสูตรและกำหนดให้วิชาพระพุทธศาสนาเป็นรายวิชาพื้นฐานที่นักเรียนทุกคนต้องเรียน เห็นได้อย่างชัดเจนว่านอกเหนือจากโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรทั่วไปจะให้ความสำคัญต่อวิชาพระพุทธศาสนาแล้ว โรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะก็ให้ความสำคัญต่อการจัดรายวิชาพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน

นางเกศทิพย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน…(หลักสูตรฐานสมรรถนะ) ซึ่งยังเป็นการวิจัยและพัฒนาในโรงเรียนพื้นที่นวัตกรรมนั้น ที่อยู่ในขั้นตอนการวิพากษ์เนื้อหาสาระและได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาต่าง ๆ รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่ให้คำแนะนำ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญร่วมกันคือการพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดสมรรถนะผู้เรียน โดยมีเป้าหมายให้ผู้เรียนทุกคนได้เรียนตามความถนัด ความชอบ และมีศักยภาพตามรูปแผนของตนเองตามที่กำหนดสำหรับโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมนั้น จึงเป็นประเด็นท้าทายสำคัญของการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาเดิมไปสู่หลักสูตรฐานสมรรถนะ จึงไม่ใช่ความพยายามในการลดทอนเนื้อหาสาระการเรียนรู้แต่อย่างใด แต่หากเป็นการแสวงหาแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่จะสามารถช่วยให้นักเรียนเกิดความรัก ความศรัทธา เกิดเจตคติที่ดีและเห็นคุณค่าต่อสิ่งดีงามที่ประเทศไทยมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณค่าของพระพุทธศาสนารวมถึงศาสนาต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

สำหรับการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน ได้มีการปรับเปลี่ยกระบวนการเรียนรู้ จากเดิมที่มีการเน้นด้านความรู้ (knowledge) และทักษะ (skill) เท่านั้น ได้มีการเพิ่มในการเน้นในเรื่องเจตคติ (attitude) และการให้เห็นคุณค่า (value) ต่อสิ่งที่เรียน ไปสู่การจัดการเรียนการสอนที่จำเป็นต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ครบทั้ง 3 มิติ ได้แก่ มิติด้านความรู้ มิติด้านทักษะ และมิติด้านเจตคติและคุณค่า ได้อย่างเท่าเทียมกันและเป็นหนึ่งเดียวกัน และใช้วิธีการสอนแบบเชิงรุก (active learning) ที่เน้นการปฏิบัติจริง ส่งผลให้ครูจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ ตัวอย่างเช่น จากเดิมการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาที่นักเรียนจะเน้นการปฏิบัติกิจกรรมในห้องเรียนจะต้องปรับเปลี่ยนมาสู่การเรียนการสอนที่ครูและนักเรียนจำเป็นต้องใช้วัดและศาสนสถานต่าง ๆ เป็นแหล่งเรียนรู้ให้มากขึ้น นักเรียนจะมีโอกาสได้เข้าวัด มีโอกาสฝึกปฏิบัติตามแนวทาง คำสอนของแต่ละศาสนาได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อการพัฒนาให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีและเห็นคุณค่าของศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม เป็นไปตามแนวคิดของการจัดการเรียนการสอนเพื่อไปสู่สมรรถนะผู้เรียน 

โดย สพฐ. ยังคงยืนยันต่อการให้คุณค่าในการเรียนการรู้ด้านศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม “อย่างไรก็ตามทั้งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ที่โรงเรียนส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 90 ทั่วประเทศใช้ในการจัดการเรียนการสอนอยู่ในปัจจุบัน และ (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน…(หลักสูตรฐานสมรรถนะ) ที่นำไปใช้ในโรงเรียนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จำนวน 265 โรงเรียน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นวิพากษ์ โดย สพฐ. ได้นิมนต์พระชั้นผู้ใหญ่มาร่วมวิพากษ์หลักสูตรด้วยนั้น ต่างก็เป็นการศึกษาที่มีจุดมุ่งเน้นในการพัฒนานักเรียนให้มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย ให้นักเรียนเป็นคนดี มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ตามที่กำหนดไว้ในเจตจำนงของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560”

กพฐ.แจงแล้ว หลังว่อน เตรียมตัด วิชาพระพุทธศาสนา ออกจากระบบการศึกษาปี 65

ข่าวเด่น

"น้ำท่วมยะลาล่าสุด" อ่วมหนักในรอบ 20ปี ประกาศเตือนภัยยกของขึ้นที่สูง

"น้ำท่วมยะลาล่าสุด" อ่วมหนักในรอบ 20ปี ประกาศเตือนภัยยกของขึ้นที่สูง

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ มอบของขวัญปีใหม่ สิทธิ์ใช้ประกันรถเปิดปิด ฟรี 1เดือน

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ มอบของขวัญปีใหม่ สิทธิ์ใช้ประกันรถเปิดปิด ฟรี 1เดือน

โครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ

โครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ

"แอนนา" ไม่ยื่นอุทธรณ์ ศาลสั่งจำคุก 100 ปี ยินดีรับสภาพ

"แอนนา" ไม่ยื่นอุทธรณ์ ศาลสั่งจำคุก 100 ปี ยินดีรับสภาพ

"หวยลาววันนี้" 27/11/67 หวยลาววันนี้ ออกอะไร หวยลาว ผลหวยลาววันนี้ 27พ.ย.67

"หวยลาววันนี้" 27/11/67 หวยลาววันนี้ ออกอะไร หวยลาว ผลหวยลาววันนี้ 27พ.ย.67

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง