ผลวิจัยชี้ โอไมครอน ไม่กลัววัคซีน ติดง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นถึง 70 เท่า
ผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ ชี้โควิดสายพันธุ์ โอไมครอน ต้านวัคซีนทุกชนิด ติดได้แม้กระตุ้นเข็ม 3 ติดเชื้อง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น 70 เท่า ด้าน อเมริกา หวั่นจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงคริสต์มาส พุ่ง 73%
ผลการวิจัยล่าสุดของคณะนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ ชี้ว่า โควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอน สามารถต้านทานวัคซีนทุกชนิดและการฉีดวัคซีนกระตุ้นอาจไม่ช่วยมากนัก เพราะคุณลักษณะที่โดดเด่นที่มีการกลายพันธุ์บริเวณ "โปรตีนหนาม" (Spike Protein) มากกว่าสายพันธุ์อื่น โดยหลังจากถูกตรวจพบครั้งแรกที่แอฟริกาใต้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ก็ทำให้เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่ามันจะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ที่ระบาดใน อเมริกา แทนสายพันธุ์เดลตา
คณะนักวิทยาศาสตร์วิตกกังวลว่า ศักยภาพในการกลายพันธุ์ของไวรัส โอมิครอน อาจเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อวัคซีน ถึงขั้นทำให้สิ้นฤทธิ์ในการป้องกัน ส่วนการกระตุ้นด้วยเข็ม 3 อาจป้องกันได้บางส่วน แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ดี ผลวิจัยนี้ยังสอดคล้องกับข้อมูลทางคลินิกล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่าโอมิครอนทำให้อัตราการติดเชื้อซ้ำเพิ่มขึ้น เพราะสามารถฝ่าการป้องกันของวัคซีนได้
นอกจากนั้น ยังมีผลการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ LKS ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ที่ว่าโอมิครอนติดง่ายกว่าเดลตาแต่อันตรายน้อยกว่า โดยหลังการติดเชื้อ 24 ชั่วโมง โอไมครอนจะเพิ่มจำนวนเป็นทวีคูณในหลอดลมของมนุษย์ เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 70 เท่า แต่พบว่าการติดเชื้อโอไมครอนในปอด "ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ" เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม
ขณะที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) เตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ จะเพิ่มขึ้น 55% เป็น 1.3 ล้านคน ในช่วงคริสต์มาส และจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงถึง 73% เป็น 15,600 คน ในหนึ่งสัปดาห์ ภายในต้นเดือนมกราคม