ผู้เสียหายคนไทย-ต่างชาติ รวมตัวถือป้ายประจาน ถูก พนง.เเบงก์ดัง โกง 200 ล้าน
ผู้เสียหายทั้งไทยเเละต่างชาติกว่าครึ่งร้อย รวมตัวประท้วง ประจานหน้าสภ.เมืองพัทยา พนักงานเเบงก์ดังโกงเงินในบัญชีลูกค้า 200 ล้านบาท
จากกรณี ผู้เสียหายทั้งไทยเเละต่างชาติกว่าครึ่งร้อยคน ร้องเรียนธนาคารชื่อดัง พนักงานแบงก์หลอกโกงเงินลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติเงินในบัญชีเสียหายกว่า 200 ล้านบาท หาคนรับผิดชอบไม่ได้ ข่าวล่าสุดบรรดาผู้เสียหายทั้งหมดได้ออกมารวมตัวพร้อมเขียนข้อความ ประจาน ประท้วงหน้าสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จี้ตำรวจเร่งสางทำคดีโดยด่วน
โดยเพจบิ๊กเกรียน เปิดเผยว่าทีมข่าวประจำพัทยา ชลบุรีรายงาน เมื่อ วันที่ 24 ธันวาคม 2564 เวลา 10.30. น. บริเวณถนนริมชายหาดพัทยากลาง หน้า สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กับ หน้าธนาคาร สาขาพัทยากลาง มีกลุ่มนักธุรกิจชาวไทยและต่างชาติรวมตัว ประมาณ 50 คน ถือป้าย พร้อมร่วมตะโกนประท้วงขอความเป็นธรรม
ระบุว่าถูกพนักงานเเบงก์สีเขียว หลอกโกงเงินกว่า 200 ล้านบาทเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ ทางธนาคารยังไม่เข้ามารับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายและ แจ้งความตำรวจ สภ.พัทยาไป คดีไม่มีความคืบหน้า
นายศิริชัย ปิยะพิเชษฐกุล ทนายความ 1ใน กลุ่มลูกความ 3 ราย ตกเป็นผู้เสียหาย ประกอบด้วย
1.นางหวัง ยุน ชิ (Mrs.Wang Yun-chi)
2.นายพัน ยง เชียง (Mr.Pan Yong-hiang)
3.น.ส.พันเหว่ย หมิง ( Ms.Pan Hwei-ming)
ได้เปิดบัญชีเงินฝากประจำที่ธนาคารสีเขียว สาขาพัทยากลาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 200,003,000 บาท
ทำธุรกรรมผ่านทาง นายชัยสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ในฐานะลูกจ้างพนักงานของธนาคารฯ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2564 ผู้เสียหายทั้ง 3 ได้ไปติดต่อธนาคารเพื่อนำสมุดเงินฝากประจำไปปรับรายการดอกเบี้ยเงินฝากและเบิกถอนเงินเมื่อครบกำหนด
-ทนายสงกรานต์ พาน้องจูน ร้องกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเยียวยาผู้เสียหาย
-นายกฯ ตอบชัดๆ ล็อกดาวน์ทั้งประเทศหรือไม่ เคานต์ดาวน์ปีใหม่ ได้หรือเปล่า?
-โผล่คลัสเตอร์โอไมครอนแห่งแรกในไทย ติดเชื้อแล้ว 22 ราย เสี่ยงสูงอีกหลายร้อย
ปรากฏว่า ไม่สามารถเบิกถอนเงินที่ฝากไว้กับธนาคารได้ ตรวจสอบพบว่า นายชัยสิทธิ์ กับพวกซึ่งเป็นลูกจ้างของธนาคาร ได้ทำรายการเท็จลงในสมุดบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายทั้ง 3 ที่ออกโดยธนาคารฯ
พร้อมกับลวงผู้เสียหายให้ฝากเงินประจำแทนการฝากแบบสะสมทรัพย์ แต่เงินของผู้เสียหายกลับไม่ถูกนำเข้าบัญชีตามระบบนายชัยสิทธิ์ ใช้สมุดบัญชีที่ธนาคารออกแต่ยกเลิกไปมาปรับรายการเพื่อทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจนได้รับความเสียหายแยกเป็น
นางหวัง ยุน ชิ (Mrs.Wang Yun-chi) จำนวน 120,001,000 บาท
นายพัน ยง เชียง (Mr.Pan Yong-hiang) จำนวน 50,001,000 บาท
น.ส.พันเหว่ย หมิง ( Ms.Pan Hwei-ming) จำนวน 30,001,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 200,003,000 บาท
สุดท้าย นายชัยสิทธิ์ กับพวก หลบหนีการกระทำผิดออกจากธนาคารฯไป ดังนั้นในฐานะที่ธนาคารฯเป็นนายจ้าง จึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้คืนเงินฝากทั้งหมดพร้อมค่าเสียหายจำนวนดัง กล่าว พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ทนายความกล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ส่งหนังสือที่ นต.1201/2564 ลงวันที่ 1 ธ.ค.64 เรื่อง ขอให้คืนเงินฝากและชดใช้ค่าเสียหาย ไปยังธนาคารฯ ถึง 2 ครั้ง มีการรับเรื่องไว้เป็นที่เรียบร้อย แต่ ทางธนาคารฯเพิกเฉยและมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบ จึงถือว่ามีเจตนาที่จะเพิกเฉยและหลีกเลี่ยงที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของนายชัยสิทธิ์ฯ
จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 ต่อไป ส่วนการเดินทางมาประท้วงและเข้าพบตำรวจที่ สภ.เมืองพัทยา ในวันนี้ ก็เพื่อประกาศให้สังคมได้รับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมทั้ง ขอให้ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา ทำการปรับเปลี่ยนคณะเจ้าพนักงานสอบสวนชุดใหม่
เนื่องจากคดี มีความล่าช้า ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก หากไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆในวันที่ 11 มกราคม 2565 กลุ่มผู้เสียทั้งหมดจะเดินทางไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานใหญ่ธนาคารสีเขียว
ขอบคุณ
ทัพยา ไทม์ Tappaya Time
บิ๊กเกรียน