เปิดของขวัญปีใหม่ 2565 กระทรวงสาธารณสุข มอบให้ประชาชน 2 โครงการ มีอะไรบ้าง
เปิดของขวัญปีใหม่ 2565 กระทรวงสาธารณสุข มอบให้ประชาชน 2 โครงการ ใช้สิทธิบัตรทอง รับบริการปฐมภูมิได้ฟรีทุกที่ ไม่ต้องมีใบส่งตัว เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565 หลังนำร่องในอีสานและกทม.
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ทุกส่วนราชการพิจารณาแผนงานหรือโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้เห็นชอบโครงการที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ 2 โครงการ ได้แก่
1. โครงการสิทธิ "บัตรทอง" หากเจ็บป่วยและมีความจำเป็น สามารถไปรับบริการจากสถานบริการปฐมภูมิที่ใดก็ได้ โดยไม่ถูกปฏิเสธ หรือถูกเรียกเก็บเงิน หรือต้องกลับไปรับใบส่งตัว เพื่อลดข้อจำกัดการเข้ารับบริการของประชาชน โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุจำเป็นไม่สามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการที่ลงทะเบียนไว้ได้ เช่น เดินทางไปนอกพื้นที่ หรือพักอาศัยอยู่ในเขตติดต่อจังหวัดอื่น เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการนำร่องโครงการเจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัวในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ใดก็ได้ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและกทม. ช่วงปี 2564 พบว่า ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการ และไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังนั้น คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึง มีมติให้ขยายการดำเนินการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อเป็น "ของขวัญปีใหม่" ให้แก่ประชาชนในสิทธิ "บัตรทอง" กว่า 47.4 ล้านคน ใช้งบประมาณวงเงิน 360 ล้านบาท โดยจะมีการเชื่อมโยงระบบข้อมูลบริการและข้อมูลการส่งต่อระหว่างหน่วยบริการ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเบิกจ่ายชดเชยบริการให้เป็นมาตรฐานเดียว
2. โครงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่บ้านด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นโรคที่พบมากเป็นอันดับ 3 ของโรคมะเร็ง ประมาณ 2,422 รายต่อปี หรือประมาณ 11.1 รายต่อประชากร 1 แสนคน สาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากตรวจพบเร็วจะมีโอกาสรักษาหายขาดถึง 80-90% แต่แม้ปัจจุบันจะสามารถเข้ารับการตรวจด้วยวิธี Pap Smear และ HPV DNA Test ได้ตามสิทธิประโยชน์ หลายพื้นที่ยังไม่สามารถตรวจคัดกรองได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากสตรีบางส่วนยังอายหรือไม่มีเวลาไปตรวจคัดกรอง ปัจจุบันมีการพัฒนา การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง สามารถเก็บเซลล์ในช่องคลอดด้วยตนเองที่บ้านและส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วฟังผลด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์
กระทรวงสาธารณสุขจึงเห็นชอบดำเนินโครงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่บ้านด้วยตนเอง เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการตรวจคัดกรองที่สะดวกต่อผู้รับบริการ และเพิ่มความครอบคลุมของการตรวจคัดกรอง โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติจะรับผิดชอบจัดหาชุดอุปกรณ์ตรวจ HPV ด้วยตนเอง จำนวน 8 หมื่นชุด ใช้งบประมาณ 5.6 ล้านบาท แจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลแม่ข่ายที่เข้าร่วมโครงการ โดยหญิงไทยอายุ 30-60 ปี สามารถขอรับชุดตรวจได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2565