ฟาดแข้งสุดมันส์! อดิศักดิ์ - สารัช ซัดอินโดฯ คนละประตู คว้าแชมป์สมัยที่ 6
ยังไงก็พาถ้วยกลับบ้าน อดิศักดิ์ - สารัช ซัดคนละประตู ฟาดแข้งสุดมันส์อินโดนีเซีย ทีมชาติไทยผงาดคว้าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 6
เสร็จสิ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแข่งขัน ชิงแชมป์อาเซียน 2020 เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บอลไทยได้ฝากเกมรุกที่สวยหรู ด้วยการทำประตูตุนไว้ถึง 4 ประตู และไม่เสียประตูให้กับนักเตะแดนอิเหนาเลย
นัดชี้ชะตาแชมป์อาเซียน 2020 นี้ มาโน โพลกิง โค้ชทีมชาติไทย ได้ส่ง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) ,ชนาธิป สรงกระสินธ์ (C), กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน,สารัช อยู่เย็น (เจนภพ โพธิ์ขี น.85) ,สุภโชค สารชาติ,ธีรศิลป์ แดงดา (อดิศักดิ์ ไกรษร น.46) ,บดินทร์ ผาลา (ฟิลิป โรลเลอร์ น.71) ,ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล น.46) ,นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ (วีระเทพ ป้อมพันธุ์น.46)
ด้าน ชิน แท-ยง ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า โค้ชอินโดนีเซียได้ส่งผู้เล่นกลับไปเนื่องจากแหกกฎมาตรการโควิด โดยกุนซือชาวเกาหลีใต้ได้ส่ง 11 ตัวจริงลงสนามเพื่อหวังสร้างปาฏิหาริย์ ประกอบไปด้วย นาเดโอ อาร์กาวีนาตา (GK), อัซนาวี มังกูวาลัม,ฟัครูดิน อาร์ยันโต,อัลเฟอันดรา เดวังกา,ปราตามา อาร์ฮัน, ริคกี้ กัมบัวยา,รัคมัต อีร์ยานโต (เอฟัน ดีมัส น.74) ,ราไม รูมากีก (อีร์ฟัน จายา น.59),เอกี้ เมาลานา ฟิกรี้,วิตัน ซูเลมาน และ เดดิก เซอตียาวัน (ฮานิซ ปูตรา น.59 , ชะฮ์รียัน อาบีมันยู น.85)
ครึ่งแรก
อินโดนีเซียพยายามบุกเข้าใส่ ก่อนที่นาทีที่ 7 กองเชียร์แดนอิเหนาจะเริ่มมีความหวัง เมื่อการครองบอลทางด้านซ้ายของ ราไม รูมากีก เชื่อมอย่างเชื่องเท้าไปหา วิตัน ซูเลมาน และเป็น ริคกี้ กัมบัวยาซัดเหน่งๆ ไปตรงตัว ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ทว่าเจ้าแชมป์ดันซองแตก ทำให้บอลหลุดเข้าประตูไป อินโดฯ นำ 1 - 0
นาทีที่ 11 ทีมชาติไทยมีโอกาสทำประตูตีเสมอจากลูกเตะมุม ธีราทร บุญมาทัน เปิดโค้งสวยๆ เข้ากรอบเขตโทษ จนอินโดนีเซียสกัดบอลพลาด เข้าทาง สุภโชค สารชาติ แต่ตะบันลูกโดนคานไปอย่างน่าเสียดาย ทีมชาติไทยยังคงตามอยู่ 0 - 1
เกมดำเนินไปอย่างน่าอึดอัดทั้งสองทีม อินโดนีเซียไล่บุกอย่างหนัก และมีโอกาสหลายหนที่จะใส่สกอร์เพิ่ม แต่ทีมชาติไทยก็ช่วยกันป้องกันการเสียประตูได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ทัพช้างศึกเองก็ช่วงชิงโอกาสสวนกลับได้บางครั้ง แต่ทั้งคู่ก็ยังทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก อินโดนีเซียนำ 1 - 0
ครึ่งหลัง
มาโน โพลกิง ขอปรับทีมเซ็ตใหญ่ ด้วยการเปลี่ยน 3 ตัวผู้เล่น 3 ตำแหน่ง ซึ่งดูเหมือนว่าเกมจะกลับมาซู่ซ่าอีกครั้ง เนื่องจากนาทีที่เริ่มต้นครึ่งหลัง ทีมชาติไทยก็มีโอกาสอันใกล้ที่จะได้สกอร์ทันที แต่ก็ยังมีช็อตไม่แม่นเท้าอยู่ จึงยังตามหลังอยู่ 1 ประตู
และแล้วการบุกเข้าใส่ของทัพช้างศึกก็เป็นผล นาทีที่ 54 ทีมชาติไทยครึ่งทีมทำเกมในกรอบเขตโทษอินโดนีเซีย ก่อนที่ช่วงชุลมุนหน้าปากประตูนั้น บอลจะมาเข้าทางซูเปอร์ซับอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร ก่อนซัดตุงตาข่าย ไทยตีเสมอสำเร็จ 1 - 1
นาทีที่ 56 กองเชียร์ไทยได้เฮต่อเนื่อง เมื่อทัพช้างศึกขึ้นเกมด้านซ้าย ก่อนที่ เจ ชนาธิปจะปาดบอลเข้าพื้นที่เยี้ยงหัวกะโหลก สุภโชค สารชาติ พยายามเบียดได้บอลจนล้มกลิ้ง และเป็น สารัช อยู่เย็น ซัดด้วยเท้าขวาเต็มข้อ ทีมชาติไทยพลิกขึ้นนำทันที 2 - 1
เวลาล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 80 อินโดนีเซียกลับมีลูกฮึดอีกครั้ง เมื่อ วิตัน ซูเลมาน กระกดบอลข้ามหัวมาอย่างสวยส่งให้ เอกี้ เมาลานา ฟิกรี้ ก่อนวิ่งย่างมั่นใจเข้ากรอบเขตโทษทีมชาติไทย ซัดบอลผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไป อิโดนีเซียตีเสมอ 2 - 2
บทสรุปสุดท้าย เป็นทีมชาติไทยที่ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะเสมอกันอินโดนีเซียในนัดนี้ แต่เกมแรกไทยทำประตูไว้เยอะ จึงมีผลสกอร์รวมทั้งหมด 6 - 2 คว้าแชมป์อาเซียนไปได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับทีมชาติไทยจะมีกำหนดบินกลับของทีมชาติไทย วันที่ 2 มกราคม 2565 ด้วยสายการบินไทยสมายด์แอร์เวย์ แบบเช่าเหมาลำ เที่ยวบินที่ WE8703 ออกจากสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ เวลา 13.30 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 14.50 น.
ภาพจากช้างศึก