เพจดัง เจอชาวเน็ตแห่สาปส่ง หลังโพสต์สมัยก่อนครูใช้ไม้เรียวตีนักเรียน!
วันครูดราม่าสนั่น ชาวเน็ตสาปส่งเพจดัง โพสต์สมัยก่อนนักเรียนได้ดีเพราะไม้เรียวครู ลั่น สมัยนี้สัมผัสนิดเดียวก็โดนฟ้องแล้ว !!
กลายเป็นดราม่าร้อนแรงต่อเนื่องตั้งแต่ วันครู ปี 2565 เมื่อ เพจเฟซบุ๊ก ครูวันดีดอทคอม - เปิดสอบครู สมัครงานราชการ ได้โพสต์ภาพในวันครูที่เป็นภาพสีซีเปีย เพื่อเชิดชูความเป็นครูในวันที่ 16 มกราคม 2565 ซึ่งในภาพนั้นเป็นภาพเก่าที่ครูใช้ไม้เรียวตีนักเรียน พร้อมข้อความประกอบว่า "สมัยก่อนได้ดีเพราะมีไม้เรียว มาสมัยนี้สัมผัสนิดเดียวก็โดนฟ้องแล้ว !!"
โดยหลังจากที่เพจดังกล่าวได้โพสต์ตั้งงภาพและข้อความดังกล่าวลงไปในโลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เรียกว่าทำเอาดราม่าบังเกิดทันที เพราะหลายคนเข้ามาคอมเม้นต์วิจารณ์กันสนั่น บ้างมองว่า ควรใช้เหตุผลและปัญญาให้มากกว่า ส่วนตัวเคยโดนตีจนกลัว เห็นเพื่อนถูกทำร้าย จนกลายเป็นเรื่องฝังใจเป็นปม พร้อมเรียกร้องให้หยุดใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียนได้แล้ว
ขณะเดียวกัน อีกกลุ่มที่มองว่า ไม้เรียวสร้างคนได้จริงๆ ได้ดีเพราะไม้เรียวครู เพราะตนเองในตอนนั้นถ้าไม่โดนไม้เรียวจากครูที่ตีและสั่งสอนคงโดดเรียนต่อไป เข้าใจดีว่าครูตีเพราะเด็กเกเร ไม่ได้ตีระบายอารมณ์ ตั้งใจเรียนได้เพราะโดนครูตี บ้างก็คอมเม้นต์ว่า ส่วนตัวคิดว่าการใช้ไม้เรียวเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่าย ไม่ต้องคิดวิเคราะห์มาก ทำให้คนเชื่อง ไม่กล้าขัดขืน และแน่นอนเป็นการปลูกฝังความคิดอำนาจ การกดขี่ ซึ่งเป็นภาพที่เราเห็นทั่วไปในสังคม
และมันจะไปปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงออก เพราะถูกความรู้สึกกลัวปลูกฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึกจนไม่กล้าทำอะไร ผมว่าทางออกนอกจากไม้เรียวน่าจะมีและมีประสิทธิภาพกว่า ถ้าจะถามว่าไม้เรียวดีไหม ให้ย้อนกลับดูว่ายุคสมัยที่ผ่านมาในภาพรวมส่วนใหญ่ คนของเรากล้าสร้างนวัตกรรม กล้าคิดนอกกรอบแค่ไหน แต่กลับกันคนของเราจะถูกจิตใต้สำนึกคล้อยตามผู้มีอำนาจได้ง่ายกว่า ทั้งๆที่จริงแล้วคนของเรามีแต่คนเก่ง มีความสามารถในแต่ละด้านทั้งนั้น ทำไม?
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายความคิดเห็นที่บอกว่า ไม่ได้ดีเพราะไม้เรียวนะ ถ้าคิดวิเคราะห์ดีๆ ลึกๆ ไม้เรียวทำให้กลัวเลยหยุดพฤติกรรมบางอย่างได้ แต่กลับกลายทำให้เป็นคนไม่มั่นใจไม่กล้าแสดงออก เพราะโดนกดด้วยการตีไง กลัวทำไม่ถูกทำผิดแล้วพะวงจะโดนตี ทางทีดีควรคุยด้วยเหตุผลทำโทษด้วยการไม่เป็นการทำร้ายร่างกาย ยุคสมัยเปลี่ยนต้องเปิดรับความเป็นสากล ไม่งั้นโลกไม่พัฒนาไปไหนหรอก พัฒนาในที่นี้หมายถึงความคิดและกฎระเบียบที่มันล้าหลังนะคะ ถ้าทำอะไรแบบเดิมๆ เราก็คงยังอยู่ในยุคหินเห่าหินใหม่
หรือจะมีอีกความคิดเห็นที่ว่า มันจบไปนานแล้ววิธีแบบนั้น แม่เป็นครู ไม่เห็นตีเด็กเลย แม่ก็ว่าเด็กตำหนิเด็กนะ แต่ไม่มีเด็กเกลียดเลย เด็กเกเร หลงทางผิด เชื่อแม่ทุกคน ทุกวันนี้เกษียณนานแล้วเห็นเด็กขับรถมากราบไหว้วันเกิดทุกปี เด็กหลงเดินทางผิดที่แม่เคยช่วยก็มาและได้ดีด้วย พ่อ แม่ แฟน น้อง ก็เป็นครูกันหมด สอนได้ดีไม่ต้องตีก็เยอะนะ ปรับความคิดกันเถอะ