อดีตผู้บริหาร Index รมควันดับในรถ ภรรยเผยสาเหตุโรครุมเร้า
นายอุดม ว่องขจรกิจ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านและเป็นอดีตรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด รมควันตัวเองเสียชีวิตในรถ ภรรยาเผยสาเหตุโรครุมเร้า
ข่าววันนี้ 19 ม.ค. เมื่อเวลา 07.30 น. ร.ต.อ.วชิรวิชญ์ วิสุทธิ์เสรีพันธุ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางบอน รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตจุดเตารมควันพิษตนเองในรถ จอดอยู่ ณ หมู่บ้านวรารมย์ ถนนบางบอน 5 แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นปลูกในรั้วรอบขอบชิดเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ตรวจสอบบริเวณหน้าบ้าน พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นคัมรี่ สีฟ้า ทะเบียน 2 กช 965 กรุงเทพมหานคร จอดดับเครื่องปิดกระจกข้างทั้ง 4 บาน อยู่ในช่องที่จอดรถ ตรงเบาะคนขับพบร่าง นายอุดม ว่องขจรกิจ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านและเป็นอดีตรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เสียชีวิตในสภาพสวม เสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงวอร์มสีเทา ส่วนที่วางเท้าเบาะผู้โดยสาร ด้านหลังคนขับพบเตาอั้งโล่ จุดไฟรมควันภายในรถ จนถ่านมอดดับไปแล้วจำนวน 1 ใบ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
-บุกค้นศูนย์พักคนชราเถื่อน ย่านลาดกระบัง พบสภาพทรุดโทรมเเออัด
-อดีตผกก.โจ้ รับเอาถุงหลายใบมาคลุมหัวผู้ต้องหาจริง อ้างแค่ต้องการให้กลัว
-หมอมนูญ เผยข้อมูลชี้ คน 4 ประเภท เสี่ยงเสียชีวิตถ้าติดเชื้อโควิด "โอมิครอน"
จากการสอบสวน นางธัญญรัตน์ ว่องขจรกิจ อายุ 64 ปี ผู้เป็นภรรยา ให้ข้อมูลทั้งน้ำตา ว่า พักอาศัยอยู่กับนายอุดมในบ้านหลังนี้แค่ 2 คน ส่วนลูกๆ แยกไปพักอาศัยอยู่ที่อื่น พบเห็น นายอุดม ครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเที่ยงคืนครึ่งที่ผ่านมา กระทั่งตื่นตอนเช้าตรู่ ก็เห็น นายอุดม ไปนั่งหมดสติอยู่ภายในรถ ที่จอดบริเวณหน้าบ้าน เมื่อเปิดประตูรถเข้าไป ก็พบเตาอั้งโล่ วางอยู่ด้านหลัง 1 ใบ พอรวบรวมสติได้จึงรีบแจ้งให้ รปภ. มาช่วยกันพยายามปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่ทันกาล เชื่อว่าสามี คงตั้งใจ รมควันฆ่าตัวตาย ในช่วงกลางดึกที่ตนกำลังหลับอยู่ ส่วนสาเหตุไม่ได้มีเรื่องอะไรนอกจาก อาการป่วยรุมเร้าด้วยโรคความดัน โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดซึ่งทำให้สามีเดินเหินลำบากมาสักระยะแล้ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน จึงมอบร่างให้หน่วยกู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตาย อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนให้ญาติเดินทางไปรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.