เจ้าอาวาสวัดศาลารี เปิดใจกลางรายการเผยความจริง ปมลงนะหน้าทอง
พระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศาลารี เปิดใจกลางรายการโหนกระแส ปมลงนะหน้าทองเผยความจริงว่า ลูกศิษย์ขอให้ทำ และตนดูจากในอินเทอร์เน็ต
จากกรณีที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ เมื่อโลกออนไลน์แห่แชร์การเขียนยันต์ ลงนะหน้าทอง เจิมหน้าผากด้วยแผ่นทองคำเปลว เขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และการลงนะหน้าทองแบบเต็มใบหน้า เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล หนุนดวง มีผู้มาต่อคิวรอเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีพระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศาลารี ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นคนทำให้
เนื่องจากเรื่องราวดังกล่าวเรื่องเป็นที่สนใจมากขึ้น กระทั่งต่อมาทาง เจ้าอาวาสวัดศาลารี แจ้งว่า งดลงนะหน้าทอง ซึ่งมีข้อตกลงกับทางสำนักพุทธและสำนักสงฆ์ที่เข้ามาตรวจสอบได้สั่งให้งดทำพิธีพรุ่งนี้ไปก่อน อาจจะมีแนวคิดอื่นเพื่อให้ดูเหมาะสมมากกว่านี้ ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะงดนานแค่ไหน ต้องดูว่าลูกศิษย์ที่มีศรัทธา จะแก้ไขปัญหายังไง เพราะทุกคนคิดต่างกันและมองต่างกัน
ข่าวล่าสุด พระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม มาพร้อม ที ศิษย์เอก และ อ. จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ได้มาออกรายการโหนกระแส ที่มี ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท มาทำหน้าที่พิธีกรแทน หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ซึ่งเจ้าอาวาสวัดดังนนทบุรี ได้ประกาศเลิกลงนะหน้าทองแล้ว พร้อมเผยความจริงว่า ลูกศิษย์ขอให้ทำ และตนดูจากในอินเทอร์เน็ต
โดยหลวงพ่อ ระบุว่า "ถ้าบอกว่าหลอกลวง อาตมาไม่ได้หลอกลวงใคร โยมมาขอให้เราช่วยเจิมหน้าผากให้หน่อย แรกๆ เลย เราก็บอกว่าเจิมทำไม จริง ๆ คำว่าลงนะหน้าทองเกิดขึ้นเพราะสื่อต่างๆ ระบุว่าการทำแบบนี้คือนะหน้าทอง แต่จริง ๆ คือเป็นการเตือนสติคนๆ นั้นเท่านั้นเอง ไม่ได้หลอกลวง เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลย แถมบอกว่าหลวงพ่อทำให้ไว้ แต่ถ้าโยมไม่มีตังค์สักบาท ไปเก็บขยะให้หลวงพ่อหน่อยสิ จะได้เกิดบุญกุศลขึ้นในใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย"
-อาลัย นายทรงยศ เทียนทอง อดีตนายก อบจ.สระแก้ว 4 สมัย เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
-เตือน ปชช. 4 สัญญาณ ที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
-"หนุ่ย อำพล" เผยภาพ "มาช่า-กาย-คุณย่า" ร่วมเฟรมกัน บรรยากาศอบอุ่น
พระครูสมุห์นพดล ระบุต่อไปว่า "จริงๆ ลูกศิษย์นิมนต์ไปทำบุญบ้าน เราสวดมนต์เพียงเล็กน้อย แล้วชวนลูกศิษย์ทำสมาธิ จริง ๆ เราชอบทำสมาธินะ ลูกศิษย์กลับมาที่วัดบอกว่าเขาชอบเรื่องลงนะหน้าทอง อาตมาไม่รู้จักหรอก เพราะไม่ดูทีวีมาเป็น 10 ปีแล้ว เขาทำไง เขาบอกว่าจิ้มแล้วเจิม อ้าว เจิมก็เจิม ยังไม่รู้เหตุผล แต่ในใจคิดว่าการเจิมหน้าผากคือจุดศูนย์รวมของสมาธิ เพื่อให้ทุกคนรู้จักมีสมาธิและตั้งตนดำรงชีวิต แค่นั้นเองที่เราคิดในตอนนั้น ธีร์คือคนแรกที่ขอให้ช่วยเจิมหน้าผากให้หน่อย"
ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่า "พอมีข่าวปั๊บก็ไปดูที่ลูกศิษย์โพสต์กัน วันที่เขาลงยังไม่ถึงเดือนเลย เริ่มลงนะหน้าทองเต็มหน้ายังไม่ถึงเดือน ลูกศิษย์เอาทองมาให้หลวงพ่อ เขาแปะ ๆ เสร็จแล้วบอกให้เขียนให้หนูหน่อย ก็เขียนทำไมน้อ เขาบอกถ้าจะลงนะหน้าทอง ก็จะปิดทองให้เต็มที่ เราก็ไม่เป็นไร เขียน มะอะอุลงไปที่ใบหน้า ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวกับอักขระ หรือเมตตา คนละเรื่องกัน"
ก่อนที่ ที ศิษย์เอกพระอาจารย์จะสารภาพว่า จริงๆ ชอบเรื่องนะหน้าทอง ก็เสิร์ชทางอินเทอร์เน็ต เห็นพระอะไรที่ขึ้นมา ก็ไปหาหมอเลย เนื่องจากตนเป็นคนขาดความมั่นใจ ก็ไปหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงเสิร์ชให้พระอาจารย์ดู แล้วให้พระอาจารย์ทำตาม ซึ่งเราเห็นเขาลงที่หน้าผาก ก็ให้พระอาจารย์เจิมที่หน้าผาก อย่างนั้นเลย
ก่อนที่เจ้าอาวาสคนดังกล่าวจะระบุเพิ่มเติมว่า "อุปกรณ์แบบนี้พระทุกรูปก็น่าจะมี ไม่ได้นอกเหนือจากพระหลายรูปมี วิธีการ จริงๆ ตอนลูกศิษย์มาขอครั้งแรก เราไม่รู้จักนะหรอกนะ แต่เขาบอกว่านะหน้าทองต้องมีแผ่นทอง เขาเตรียมมาให้ เหลือจากการทำบุญบ้าน เราก็จิ้มเหมือนเวลาเจิมบ้าน จิ้มไปที่แผ่นทอง ไม่ได้ทำอะไรเลย จิ้มไปที่หน้าผาก
ระลึกไว้ว่า มะอะอุ ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แค่นี้เอง ไม่มีอะไรที่เป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อิติปิโส แค่นี้เลย ส่วนปากกาเกิดขึ้นในช่วงหลัง หลังจากจิ้ม คุณทีเขาชอบเรื่องสักยันต์ ให้สักให้หน่อย แต่เราบอกว่าไม่เอาเข็มจิ้มเนื้อใคร ก็เอาเขียนให้ที่ฝ่ามือแล้วกัน สิ่งแรกก็ลากเส้นให้ตรง นะโมก็เขียนธรรมดา ไม่ลืมมะอะอุ ใส่ตัวอนุโลมไปปกติ"
ข้อมูลจาก รายการโหนกระแส