ย้อน 5 คดีดังอุบัติเหตุสลด ชนคนดับบนทางม้าลาย
ย้อน 5 คดีดังอุบัติเหตุสลด ชนคนดับบนทางม้าลาย เกิดคำถามทางม้าลายยังจำเป็นต้องมีอยู่ไหม? หรือทางตำรวจจะมีวิธีแก้ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นอย่างไร?
สืบเนื่องมาจากกรณีเกิดอุบัติเหตุ แพทย์หญิงถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนบริเวณถนนพญาไท หน้า โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ บาดเจ็บสาหัสศีรษะกระแทกพื้น ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บคือ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ขับขี่บิ๊กไบค์เป็นตำรวจ ยศ ส.ต.ต.ทราบชื่อในเวลาต่อมานั้น นรวิชญ์ บัวดก เป็นตำรวจควบคุมฝูงชน หรือ คฝ. โดยตำรวจรายนี้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มีกระแสข่าวว่า ตำรวจนายนี้ขับฝ่าไฟแดงและมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของเจ้าตัวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และช่วงเวลาที่เกิดเหตุคุณหมอท่านนี้ ข้ามถนนโดยใช้ทางม้าลาย แต่กลับมีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ พุ่งมาชนโดยไม่ชะลอ จนทำให้คุณหมอร่างกระเด็นไปไกลเลือดไหลเต็มถนนแพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ทัน
โดยพนักงานสอบสวนได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้ว ผลปริมาณแอลกอฮอล์มีค่าเป็นศูนย์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาทและการกระทำนั้น เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย” และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในข้อหา นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง, ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย และไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมาย
บนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม) และ พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ข้อหา ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้พบกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และได้กล่าวขอโทษกับเหตุ
ที่เกิดดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวนฯ จะเร่งรัดสรุปสำนวนการสอบสวนและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวน ส่งพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
จากกรณีข่าวสลดที่เกิดขึ้นนั้น ทางด้านไทยนิวส์ออนไลน์จะพาคุณผู้ชมไปย้อนเรื่องราวของคนที่ผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องมาพบจุดจบบนทางม้าลาย จนเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาในสังคมว่า "ทางม้าลายยังจำเป็นต้องมีไหม?"
โดยหากเราย้อนไปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2557 เกิดเหตุคนขับรถบรรทุกพุ่งชนคนเดินเท้าที่กำลังข้ามถนนบริเวณหน้าตึกจีเอ็มแกรมมี่เพลส ก่อนลากร่างไปไกล 5 เมตร จากนั้นพลเมืองดีได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางสาวกาณจน์ภัสร์ ศิริประทุม หรือ วิเวียน อายุ 28 ปี ครีเอทีฟรายการ 2 สาวเล่าเรื่อง ของบริษัท เอ็กแซ็กซ์ จำกัด และเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน
-ทัวร์ลงยับ ดร.เอ้ ยกเคส "หมอกระต่าย" แต่กลับพ่วงนโยบายหาเสียง
-รอง ผบช.น. แจงแล้ว ปมดราม่าเก็บหลักฐาน "หมอกระต่าย" ไว้ 2 ชม. ไม่ติดต่อญาติ
-อึ้งแรง “หนุ่ม กรรชัย” ถามแทนคนไทยกลางรายการ หลัง ส.ต.ต. ทำผิด 7 ข้อหา!
ซึ่งในที่เกิดเหตุนั้น มีคนขับเป็นชายรอมอบตัวอยู่ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบปากคำ ที่ สน.ทองหล่อ โดยจากการสอบสวนพยานให้การว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีสัญญานไฟจราจร หากใครจะข้ามถนนต้องกดสัญญาณไฟเพื่อข้ามถนน ซึ่งในจังหวะนั้นนางสาวกาณจน์ภัสได้ก้าวลงบนพื้นถนนเป็นคนแรก ท่ามกลางผู้รอข้ามอีกหลายคน แต่มีรถบรรทุกฝ่าสัญญาณไฟพุ่งเข้าชนอย่างแรง ทำให้นางสาวกาณจน์ภัสร์หมดสติทันที จากนั้นไม่นาน มีรถของมูลนิธิแห่งหนึ่งพาตัวนางสาวกาณจน์ภัสร์ส่งโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์ระบุว่าผู้ป่วยอยู่ในขั้นอันตราย เพราะกระดูกซีกขวาหักทั้งหมดสมองกระทบกระเทือนอย่างแรง กะโหลกหน้าผากแตกทั้งหมด ไม่สามารถผ่าตัดได้เพราะว่าเลือดไม่หยุดไหล เป็นผลให้นางสาวกาณจน์ภัสเสียชีวิตในเวลาประมาณ 16.30 น. ของในวันที่ 18 ธันวาคม 2557
ส่วนอีกหนึ่งเหตุการณ์โดยหากเราย้อนไปเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคดีสุดเศร้าและเป็นข่าวโด่งดังในเวลานั้น สำหรับผู้โชคร้ายอย่าง น้องใบหม่อน หรือ นางสาวหทัยภัทร ตันตสิรินทร์ อายุ 15 ปี นักศึกษาศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชนอย่างแรง ขณะกำลังข้ามทางม้าลายหน้าวิทยาลัยฯ ซึ่งมีสัญญาณปุ่มกดไฟเขียงไฟแดงสำหรับให้สัญญาณกับรถยนต์ก่อนจะเดินข้ามถนน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายหลังจากการผ่าตัด น้องใบหม่อนไม่รู้สึกตัวอีกเลย แพทย์ระบุว่าสมองตาย ไม่ตอบสนองแล้ว มีเพียงก้านสมองที่ยังทำงานอยู่ ซึ่งแพทย์ยังใช้ยากระตุ้นความดันให้หัวใจเต้นสูบฉีดเลือด ก่อนที่ในเวลาต่อมานั้นน้องได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ก่อนที่ในเวลาต่อมานั้น นางหนึ่งฤทัย ตันตสิรินทร์ แม่ของน้องใบหม่อน ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดนครปฐม หลังศาลมีคำสั่งนัดตรวจพยานพร้อมโจทก์ ซึ่งภายหลังการเจรจา นางหนึ่งฤทัย กล่าวว่า วันนี้นายมรรควัฒน์ คู่กรณี เดินทางมาพร้อมครอบครัวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้เข้ามาพูดคุยหรือขอโทษอะไรกันเป็นการส่วนตัว ไม่รู้เหมือนกันว่าฝั่งนั้นเขาคิดอะไร สำนึกผิดจริงไหม
ในเรื่องคดีนั้น ผู้ต้องหาให้การสารภาพ ส่วนการไกล่เกลี่ยทดแทนค่าสินไหมนั้น วันนี้ตกลงกันได้แล้ว คู่กรณียอมชดเชย 2 ล้านบาท ถ้าถามว่าพอใจไหม ชีวิตคนมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ต้องดูสถานะฝั่งคู่กรณีด้วย
ต่อไปคดีในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนใจ กรณี น้องลิ้นจี่ หรือ น.ส.วิลาวัณย์ พุ่มมาลา นักศึกษาจบใหม่ เพิ่งมาเริ่มทำงานได้วันแรก แต่กลับถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชน ขณะกำลังข้ามถนน บริเวณแยกกรมโยธาและผังเมือง ถนนพระราม 9 ส่งผลให้ขาหัก 5 ท่อน, แขนหัก และสมองตาย โดยพบว่า บิ๊กไบค์เองมัวแต่ดูมือถือ จนชนน้องลิ้นจี่ขณะกำลังข้ามทางม้าลาย
ก่อนที่ในเวลาต่อมานั้น เพื่อนของน้องลิ้นจี่ ได้เเจ้งข่าวร้ายน้องได้จากไปอย่างสงบ พร้อมกล่าวด้วยความอาลัยว่า "ตื่นมาอยากให้มันเป็นแค่ฝัน อยากให้มันไม่ใช่เรื่องจริง อยากให้ทุกสิ่งที่เราจะทำด้วยกันมันสำเร็จก่อน แต่ถ้ามึงไม่ไหวก็ขอให้พักผ่อน นอนหลับให้สบาย ชาติหน้ายังไม่สายที่เราจะฝันร่วมกันอีก"
ไปต่อกันที่ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 ได้เกิดเรื่องสลดของสาววัยรุ่นผู้โชคร้าย โดยตัวเธอนั้นมีชื่อว่า นางสาวธีราพร หวันสู อายุ 23 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยเธอนั้น ข้ามถนนกลับจากร้านสะดวกซื้อ ถูกกระบะมาเร็วชนตรงทางม้าลายจนร่างกระเด็นตายคาที่ หน้าวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ถนนรังสิต-ปทุมธานี คู่กรณีอ้างถนนมืดขับมาร้อยกว่าๆ จะเบรกก็ไม่ทันแล้ว
ซึ่งในปีเดียวกันนี้นั้น เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 ตำรวจ สภ.อัมพวา ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตจากรถเฉี่ยวชน บริเวณถนนสมุทรสงคราม-บางแพ หลักกิโลเมตรที่ 12 ทางเข้าหน้าวัดปากง่าม หมู่ 9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับแพทย์ และมูลนิธิสรรพราเชน
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่กลางถนน ซึ่งเป็นทางม้าลายคนข้าม ใกล้ที่เกิดเหตุมีรองเท้าแตะตกอยู่ 1 คู่ และบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิต และมีธนบัตรฉบับละ 20 บาท 1 ฉบับ ห่างไป 50 เมตร พบรถกระบะสีบอรน์ หมายเลขทะเบียน บห 4092 ราชบุรี มีนายมาตรการ ยอแสง อายุ 28 ปี ชาว จ.เพชรบุรี เป็นคนขับ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิตที่ตกอยู่ ทราบชื่อ นายสำรวย ตุ้ยจิตร อายุ 81 ปี ชาว ต.แควอ้อม อ.อัมพวา จ สมุทรสงคราม พบบาดแผลฉกรรน์ที่ใบหน้าด้านซ้ายหายไปทั้งแถบ
สืบเนื่องมาจากที่ไทยนิวส์ออนไลน์นั้นพาคุณผู้ชมย้อนไปดูคดีสลดที่เกิดขึ้น เราจะไปพาไปปิดท้ายด้วยความเห็นของ ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ออกมาเรียกร้องว่า เมื่อทางม้าลายไม่มีความหมาย คนเลวไม่แยแสกฎหมาย คนบริสุทธิ์ต้องล้มตายรายแล้วรายเล่า จะมีทางม้าลายไว้ทำไม?…
ถึงเวลาหรือยัง ที่ต้องทบทวนมาตรการจัดการกับมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ รถยนต์ ที่ชอบฝ่าไฟแดง ขับซิ่งเร็ว ปาดซ้ายปาดขวา รวมถึงขับสวนเลน และไม่หยุดในที่ที่กฎหมายกำหนด…ปรับไม่พอ ต้องยึนิวส์ในดยานพาหนะ ถอนใบขับขึ่ ดำเนินคดีอาญาหากก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต…
ถึงเวลาหรือยัง ที่สังคมต้องเคลื่อนไหวควบคู่ไปด้วย หน่วยงานรัฐและเอกชนควรร่วมกันลงโทษทางสังคมต่อผู้กระทำผิดควบคู่ไปกับกฎหมายที่บังคับใช้…เมาแล้วขับ ขับเร็วโดยประมาท ฝ่าฝืนกฎจราจรจนเป็นเหตุให้คนบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต ไม่ควรเก็บไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่างในหน่วยงาน ไม่ว่ารัฐหรือเอกชนก็ตามจะรอให้เกิดโศกนาฏกรรมอีกกี่ราย จึงจะเปลี่ยนสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ปลอดภัยขึ้นกว่าที่เป็นมา
อุบัติเหตุจราจรเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ หากเอาจริง
โดยจาก 5 คดี ดังกล่าวนั้น รวมถึงคดีของหมอกระต่ายนั้น ทางไทยนิวส์ออนไลน์ก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเราก็คงมาตั้งคำถามกันว่า ทางม้าลายนั้น ยังจำเป็นต้องมีไหม? หรือทางตำรวจจะมีวิธีแก้ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นอย่างไร?