เรื่องควรรู้ "คนละครึ่งเฟส 4" รีบเช็คเงื่อนไข ก่อนเสียสิทธิไปแบบไม่รู้ตัว
เรื่องที่ต้องรู้ 3 เรื่องเกี่ยวกับหลักการใช้สิทธิที่ "คนละครึ่งเฟส 4" พร้อมเผยข้อเท็จจริงที่ต้องรู้ก่อน"ลงทะเบียนคนละครึ่ง" และเริ่มใช้จ่าย เพื่อป้องกันการเสียสิทธิคนละครึ่งไป
กรรณีโครงการที่โครงการ "คนละครึ่งเฟส 4" ที่ประชาชนชาวไทยให้ความสนใจมากที่สุดในยุคสมัยรัฐบาลลูงตู่ ซึ่งมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.พ. - 30 เม.ย.นี้
โดยในครั้งนี้ ภาครัฐร่วมสนับสนุนวงเงินในการใช้จ่ายจำนวน 1,200 บาทต่อคน ผ่านแอพพลิเคชัน"เป๋าตัง" และยังคงมีประชาชนบางส่วนที่ยังรู้ข้อเท็จจริงก่อน "ลงทะเบียนคนละครึ่ง" และเริ่มใช้จ่าย วันนี้ทีมข่าวไทยนิวส์ออนไลน์จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจอีกครั้งเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ไปในครั้งนี้
อัพเดทข่าวล่าสุด กฎเกณฑ์ของ "คนละครึ่งเฟส 4" มีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจาก "คนละครึ่ง" เฟสอื่นๆ เล็กน้อย ที่ผู้ได้รับสิทธิควรทำความเข้าใจก่อนเสียสิทธิประโยชน์ไป
เงื่อนไขการใช้เงินเมื่อเริ่มโครงการ
โครงการคนละครึ่งเฟส 4 มีเงื่อนไขการใช้งาน สำหรับผู้ได้รับสิทธิรายเก่า ที่จะสามารถกด "ยืนยันสิทธิ" ได้ในวันที่ 1 ก.พ. 2565 จำเป็นจะต้องใช้จ่ายเงินครั้งแรกในภายในวันที่ 28 ก.พ. 2565 เวลา 22.59 น. หากไม่ใช้ภายในเวลาที่กำหนด จะถูกติดสิทธิ์ใช้เงิน 1,200 บาททันที
หากใช้สิทธิช้อปดีมีคืน 2565 ไปแล้ว จะกดรับสิทธิคนละครึ่งเฟส 4 อีกได้ไหม
ประชาชนสามารถใช้สิทธิทั้งสองโครงการได้โดยไม่ต้องเลือกโครงการใดโครงการหนึ่ง เมื่อเลือกเข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน โดยซื้อสินค้าและบริการตามโครงการในช่วง 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2565 ไปแล้ว สามารถใช้สิทธิคนละครึ่งเฟส 4 ที่จะเริ่มต้นโครงการ ก.พ.-30 เม.ย. 2565 ได้อีก
ขณะเดียวกัน ผู้ที่ใช้สิทธิช้อปดีมีคืน 2565 ก็สามารถใช้สิทธิมาตรการ “คนละครึ่งเฟส 4” ที่จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.- 30 เม.ย.2565 ได้อีกด้วย เนื่องจากช่วงเวลาไม่ทับซ้อน
คนละครึ่งเฟส 4 ให้สิทธิเฉพาะคนที่เคยได้รับสิทธิรายเก่าจริงหรือไม่
การใช้สิทธิ "คนละครึ่งเฟส 4" รัฐบาลเติมเงินให้ 1,200 บาท ทั้งผู้มีสิทธิรายเก่าจำนวน 27.98 ล้านคน และผู้มีสิทธิรายใหม่เพิ่มอีก 1 ล้านคน โดยไทม์ไลน์ การลงทะเบียน การกดยืนยันสิทธิ และการรับเงินของรายเก่าและรายใหม่มีความแตกต่างกัน ผู้ที่ต้องการรับสิทธิคนละครึ่ง จึงจำเป็นต้องเช็คไทม์ไลน์ตามสิทธิของตัวเองให้ดี ป้องกันการตกหล่นและเสียสิทธิ ดังนี้
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง: กระทรวงการคลัง, มติ ครม.