"ทิดไพรวัลย์" ตอกกลับหน้าสั่น หลังเจ้าของแบรนด์แฉเรท ค่าตัวตอนยังไม่สึก
ทิดไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้ออกมาชี้แจงแล้ว หลังมีข่าวการแฉเรทราคาตั้งแต่ตอนยังเป็นพระ ลั่น ตอนนั้นทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องเหลือเกิน
จากกรณี เพจ Khaopod - ข่าวปด 2HD ได้ออกแฉข้อมูล ทิดไพรวัลย์ ขณะที่ยังบวชเป็นพระอยู่ ซึ่งทางเพจระบุว่า "น้ำลดตอผุด รวมประเด็นเคลือบแคลงในอดีตที่ไม่เคลียร์ของทิดคนดัง
1. ไลฟ์สอนธรรมะตอนที่ยังบวชอยู่ แต่แฝงการ Tie-In สินค้า โดยเรียกรับเงินจากแบรนด์ต่างๆ โดยคิดราคา 2 เรท รายครั้งและรายเดือน โดยรายครั้งจะราคาสูงกว่าเช่น 10,000 บาท รายเดือน 100,000 บาท เพื่อจูงใจให้เจ้าของสินค้าไปใช้แบบรายเดือน โดยวางสินค้าให้เห็นในไลฟ์ ทำแบบเนียนๆ เหมือนของที่เอามาตั้งไว้เฉยๆ
- มีการตั้งคำถามว่า "เหมาะสมมั้ย" กับการที่อาศัยผ้าเหลืองมาทำธุรกิจไม่ต่างจากฆารวาส แต่ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น เรื่องภาษีที่ไม่ต้องจ่ายจากรายรับที่เข้ามา ซึ่งบรรดา influencer คนอื่นก็ต้องเสียภาษีในส่วนนี้เช่นกัน
2. นำรูปแฟนเมด / รูปประกอบคำสอน ที่แฟนคลับทำให้ ไปตีพิมพ์ทำเป็นปฏิทินขายโดยที่ไม่แจ้งกับเจ้าของผลงานว่าทำออกมาในเชิงพานิชย์
ซึ่งทางแฟนคลับท่านดังกล่าวกังขาว่า ทำไมจะทำออกมาแต่ไม่ยอมบอกกล่าวเจ้าของผลงานเลยสักคำ
ประเด็นทั้ง 2 มีคนฝากถามมานะครับ ไม่กล้าถามในตอนแรกเพราะตอนนั้นบาเรียกางหนาแน่น กลัวว่าถามไปแล้วบาเรียจะเป็นแบบสะท้อนการโจมตีกลับ ตอนนี้บาเรียหายไปแล้ว เลยถามครับ" โดยโพสต์ดังกล่าวเป็นที่สนใจและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในขณะนี้
ล่าสุด ทิดไพรวัลย์ ก็ได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า
ผมเห็นแล้วนะครับ ที่เป็นข่าวเรื่องแชทเรทราคาวางสินค้าตอนเป็นพระ ซึ่งลูกศิษย์ผมคุยกับเจ้าของแบรนด์ๆ หนึ่ง ซึ่งตอนนั้นทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องเหลือเกิน เพราะอยากจะเอาสินค้าตัวเองมาวางไว้ในโต๊ะไลฟ์สดของผมให้ได้
ผมไม่แก้ตัวแก้ต่างอะไรให้ตัวเองนะครับ เพราะที่ให้ลูกศิษย์ตกลงกับเจ้าของแบรนด์เช่นนั้น นั่นเพราะผมเข้าใจว่าทำได้ หลังจากที่ผมเข้าพบ กมธ. ที่รัฐสภาแล้ว ผมจำได้แม่นว่า อาจารย์สมปองได้ถามเรื่องการที่เจ้าของแบรนด์ต่างๆ จะให้การอุปถัมภ์ในการทำงานด้านการเผยแผ่ของพวกเรา และกมธ. ในวันนั้นตอบว่า ทำได้ครับ
ภายหลัง เมื่อเกิดการวิจารณ์ในวงกว้าง เราก็หยุดครับ ไม่รับการอุปถัมภ์จากแบรนด์สินค้าไหนอีกเลย
อันหนึ่งที่ผมอยากพูด และอยากฝากไปถึงเจ้าของแบรนด์ๆ นั้น ก็คือว่า พี่ก็รู้นะครับว่า ตอนนั้น ผมมีทีมงาน 4 คน ผมต้องเลี้ยงดูลูกศิษย์ ทั้งเรื่องทุนการศึกษา ที่พัก อาหารและอื่นๆ อีกมากมาย ผมจ่ายเงินเดือนให้พวกเขา และก็หลงดีใจว่า แบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามามองเห็นจุดนี้ จึงอยากมีส่วนในการช่วยอุปถัมภ์ร่วมกัน
การตกลงใดๆ ก็ตาม แม้ผมไม่ได้เป็นผู้สนทนาด้วยตนเอง ผมถือว่าเป็นเรื่องระหว่างผู้เสนอกับผู้รับเรื่องนะครับ เป็นความพึงใจของสองฝ่าย ซึ่งโดยมารยาทที่ดีแล้ว เราจะไม่นำมาเปิดเผย ผมไม่อาจทราบเจตนาได้นะครับว่า ที่แบรนด์ๆ หนึ่ง เอาแชทที่ได้คุยกับลูกศิษย์ผมมาเปิดเผยเช่นนี้ ต้องการอะไร หรือมุ่งหวังผลในทางไหน
ขอโทษนะครับ ถ้าผมทำอะไรที่ไม่พึงใจให้ แต่สิ่งที่ผมอยากอธิบายมีแค่นี้
ไม่น่ารักเหมือนตอนมาเกาะหน้าโต๊ะไลฟ์สดเลยนะครับ