"ไพรวัลย์" เคลื่อนไหวแล้ว หลัง "สมปอง" โดนดราม่าถล่มหนัก
ทิดเอก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ออกมาโพสต์ข้อความหลังเกิดดราม่ากับ สมปอง นครไธสง แตกหัก ติ๋ม ทีวีพูล โดยระบุข้อความ กับคำว่า "เธอมีเพื่อนจริงๆหรือยัง"
จากดราม่าเดือด ติ๋ม ทีวีพูล ควงลูกชายแถลงข่าวด่วนแฉสมปอง หรือ จนล่าสุด "สมปอง" โผล่ไลฟ์แจงดราม่าแตกหัก ติ๋ม ทีวีพูล ยอมรับเรื่องจริง ที่บอกอยากรวยอยากได้100 ล้านใน 3 เดือน เป็นเพียงการพูดเล่น ใครจะไปทำได้ หลังถอนตัวจากรายการ 3 รายการรวด และยังขนข้าวของออกจากบ้าน จนติ๋ม ทีวีพูลประกาศไม่เผาผี
ข่าวล่าสุด ทิดเอก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ
#ไพรวัลย์เธอมีเพื่อนแล้วหรือยัง
ได้พบได้เจอ ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง แล้วก็พลันให้นึกถึงคำพูดของพี่สาวคนหนึ่ง พี่สาวที่น่ารักมากๆ สำหรับผม เมื่อไม่กี่วันมานี้ เราไปทานข้าวกัน เธอถามผมขึ้นมาประโยคหนึ่ง เป็นประโยคสั้นๆ แต่ทำให้ผมต้องกลับมานั้งคิดตามอยู่หลายวัน
เธอถามผมว่า "ไพรวัลย์ ตั้งแต่สึกมา ตอนนี้เธอมีเพื่อนจริงๆ สักคนหรือยัง"
ผมตอบเธอไปแบบคนสนิทที่หยอกล้อกันว่า "มีเยอะแยะนะแม่ หนูมีคนรู้จักตั้งเยอะ เขาชวนหนูไปกินข้าว ไปทำนั้นทำนี่ แบบนี้เรียกเพื่อนได้ไหม"
พี่สาวรีบพูดสวนผมขึ้นมาทันทีว่า "นั้นไม่ใช่เพื่อนนะไพรวัลย์ เพื่อนต้องไม่ใช่คนที่ชวนเธอไปกินข้าว จากนั้นก็คุยแต่เรื่องธุรกิจตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย เพื่อนไม่ใช่คนที่เห็นว่าเธอเป็นตัวเงินตัวทองสำหรับเขา ไม่ใช่คนที่มองว่า เธอมีมูลค่า เพราะเธอยังทำเงินให้เขาได้ ตอนนี้เธอมีเพื่อนหรือยัง"
-"ทิดสมปอง" โผล่ไลฟ์แจงดราม่าแตกหัก "ติ๋ม ทีวีพูล" ยันชัด ไม่ยุ่งธุรกิจสีเทา
-เผยภาพห้องนอนสุดหรู "ติ๋ม ทีวีพูล" จัดให้ "สมปอง" มีตู้แช่ไวน์ตามฝัน
-ติ๋ม ทีวีพูล เล่าเสียงสั่น "สมปอง" ทะเยอทะยานอยากรวย แฉค่าตัวรีวิวสูงปรี๊ด
อืม น่าคิดมากนะ ในวันที่เราเป็นที่ตั้งของผลประโยชน์ ผู้คนจะยังเข้ามาหาเรา พูดดีกับเรา ปฎิบัติดีต่อเรา หรือแม้แต่เสนอสิ่งนั้นสิ่งนี้ให้เรา ในความเป็นเช่นนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เราจำต้องย้ำเตือนตัวเองให้มากๆ นั้นก็คือว่า ทุกคนอาจมีความรัก พวกเขาจึงเดินเข้ามาในชีวิตของเรา แต่ความรักที่ว่านี้ อาจไม่ใช่ความรักในตัวเราอย่างที่เราเข้าใจ มันเป็นความรักในผลประโยชน์ที่เรามี ผลประโยชน์ที่ทุกคนเดินเข้ามา เพื่อตักตวงและกอบโกยมันไปจากเรา ผมควรต้องเตือนตัวเองให้มากๆ ในเรื่องนี้
ชีวิตไม่สามารถอยู่ได้ หากตัวเราปราศจากผลประโยชน์ร่วมกันกับคนอื่นอย่างสิ้นเชิง เราพึ่งพาเขา เขาพึ่งพาเรา จึงอยู่ได้ แต่เพราะเป็นอย่างนี้แหล่ะ เราจึงต้องมีสติและเรียนรู้ที่จะระมัดระวังตัวเมื่อต้องปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นให้มากๆ
เราควรตอบรับเฉพาะแค่ในสิ่งที่เราตอบรับได้ ทำงานให้เท่าที่เราอยากจะทำ รับฟังความเห็นจากคนอื่นที่เสนอแนะ แต่อย่าเชื่อพวกเขา ฟังเสียงตัวเองให้มาก เก็บเฉพาะสิ่งที่มีประโยชน์มาทบทวน อย่าเกรงใจคนอื่น จนความเกรงใจนั้นทำให้ตัวเองต้องลำบากในภายหลัง อย่าทำเพื่อใคร ถ้าไม่เต็มใจหรือรู้สึกว่าอยากจะทำ
ที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม หากรู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบ จงรีบแสดงออกตรงๆ จงเปิดเผย และออกห่างใครก็ตามที่เอาเปรียบเรา จงยอมให้คนอื่นเกลียด แต่อย่ายอมให้เขาเอาเปรียบและรังแกเราเด็ดขาด
งานจะทำให้เรามีเงิน แต่ถ้าเราเห็นแก่เงิน จนไม่เลือกงาน หรือเลือกคนที่จะทำงานด้วย สุดท้าย ตัวเราเองนั่นแหล่ะที่จะไม่ได้อะไรจากการทำงานเลย งานที่ทำด้วยความทุกข์หรืองานที่ทำด้วยความรู้สึกว่าไม่อยากทำ มักจะนำความขาดทุนมาให้ มากกว่าที่จะตอบแทนด้วยกำไรอันเป็นความสุข
กี่ครั้งแล้ว ที่เราถอนใจและอ่อนแรง กี่ครั้งแล้วที่เราฝืนยิ้มให้กับใครก็ไม่รู้ ที่เราไม่ได้รู้สึกสนิทใจกับเขาจริงๆ
"...ไพรวัลย์ เธอต้องมีเพื่อน แต่ตอนนี้ฉันว่าเธอยังไม่มี..." พี่สาวคนนั้นพูดกับผม