ติ๋ม ทีวีพูล เปิดใจ เคลียร์ทุกดราม่า เลี้ยงพระเป็นผัว? หลังแตกหัก "ทิดสมปอง"
ติ๋ม ทีวีพูล เปิดใจเคลียร์ทุกดราม่า เลี้ยงพระเป็นผัว? หลังแตกหัก "ทิดสมปอง" อโหสิกรรมให้ แต่ยังรอเรื่องกลับมาเคลียร์เงินล้าน หลังเทคิวทำงาน ทำเสียหายมหาศาล
เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง สำหรับปมการแตกหักของ พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋ม ทีวีพูล และ นายสมปอง นครไธสง หรือ ทิดสมปอง ซึ่งต่างฝ่ายต่างออกมาพูดตอบโต้กันไปกันมา อีกทั้งชาวเน็ตยังตั้งข้อสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เพราะมีการขุดคุ้ยคลิปในขณะที่เจ๊ติ๋ม นั่งควงแขนเอามือลูบพุงของทิดสมปอง ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65 ติ๋ม ทีวีพูล ได้เปิดใจผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้หนักที่สุดในชีวิต เพราะไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะเกิดความขัดแย้งกับใคร
เป็นคนชวนสมปองมาอยู่บ้าน หรือ สมปองขอมาอยู่เอง?
ติ๋ม ทีวีพูล : พี่เป็นเจ้าของทีวีพูล พี่มีตำนานที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่าใคร สร้างดารามาเยอะแยะ ให้คำแนะนำใครต่อใครมาเยอะแยะ รู้จักทั้ง อั้ม พัชราภา , ชมพู่ อารยา พี่จำเป็นต้องหิวแสงไหม? เขาเป็นคนขอเข้ามาอยู่บ้านพี่ ผ่านทางเลขาของพี่ ตอนแรกเขาจะขอเช่า เราก็คิดว่าเขาจะมีเงินขนาดไหน เขาทำนุบำรุงศาสนามาตั้งนาน พี่ก็เลยบอกว่าไม่ต้องมาจ่ายพี่หรอก พี่ไม่รู้จักเขามาก่อนเลย ไม่เคยสนทนาธรรมกันมาก่อนเลย เพิ่งมารู้จักกันตอนที่เลขาพี่ไปสัมภาษณ์เขา
เรื่องความสัมพันธ์ ที่มีคนขุดว่า เล่นน้ำด้วยกัน ลูบพุงกัน?
ติ๋ม ทีวีพูล : พี่มองเขาเหมือนลูก พี่เชื่อเรื่องการสัมผัส การกอด เราเห็นว่าพุงเขาใหญ่ เรากำลังหาโฆษณาค่ายลดพุงให้เขา เวลาเราตบพุง เราก็ตบพุงต่อหน้าคนอื่นตลอด ไม่เคยตบลับหลังใคร ไม่เคยอยู่กับสมปอง 2 ต่อ 2 แม้แต่ 1 วินาที ตอนลงสระว่ายน้ำ ดร.ออม ก็อยู่ด้วย พี่อยากสอนเขาว่ายน้ำ เพราะเห็นว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น แต่สมปองว่ายน้ำเก่งมาก ทั้งๆ ที่ปกติพระจะมีข้อห้ามไม่ให้ว่ายน้ำ แล้วสมปองก็บวชมาตั้งแต่เด็ก
ชาวเน็ตโพสต์แรง อยากเลี้ยงพระเป็นผัว ทำให้หลายคนเข้าใจผิด พี่ติ๋มคิดอย่างไร?
ติ๋ม ทีวีพูล : คนที่คิดไม่ดี มันจะทำร้ายตัวเขาเอง และมันจะส่งผลไปยังตัวบุพการีเขาด้วย คนที่รักลูกอย่างยิ่งใหญ่อย่างพี่ เรายอมตายแทนลูกได้ทุกชั่วขณะ แล้วพี่จะกล้าทำชั่วขนาดนี้ได้หรอ หลังจากนี้ก็จะให้กฎหมายจัดการต่อไป
-ชาวเน็ตแห่แซว "ทิดไพรวัลย์" หลังเข้าทำบัตรประชาชน ใช้คำนำหน้าชื่อใหม่
-"ทิดสมปอง" เปิดใจเผยสาเหตุที่ออกจากบ้าน "ติ๋ม ทีวีพูล"
-"ทิดสมปอง" เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กล่าสุด หลังเจอกระแสดราม่าโจมตีหนัก
เรื่องเงิน 1 ล้าน ที่ทิดสมปองบอกว่าจะคืน ได้มีการติดต่อกันไหม?
เต้ กันต์พงษ์ : ทางพี่สมปองได้ติดต่อมาว่าจะคืนเงินแล้ว โดยเมื่อวานพี่สมปองไลน์มาหาผม แจ้งว่าเงิน 1 ล้าน เขาจะเคลียร์ให้ แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะเคลียร์เมื่อไหร่ เป็นก้อนหรือเป็นงวด แค่บอกวาจะเคลียร์ให้ ผมตอบพี่สมปองไปแล้วว่า เงิน 1 ล้านบาทนั้น เป็นตัวที่ระบุอยู่ในสัญญา แต่จริงๆ มันมีค่าเสียหายที่เกินกว่านี้ เช่น ค่าฉาก ค่านักแสดง ค่าเสียเวลา เดี๋ยวจะมาคิดอีกทีว่าจะมีมูลค่าความเสียหายแค่ไหน ถ้าวัดในตัวเงิน มันหลายล้านมาก แต่ปัญหาที่เขาเจออยู่ อาจจะไม่สามารถมาดำเนินการตรงนี้ได้ทันที ผมคิดว่าคงต้องมาคุยกันก่อน ผมอาจจะไม่ได้เก็บยอดเต็ม คงต้องมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันก่อน คุณมีคิวที่รับมาแล้ว แล้วจะทำในอีกสองวัน อาจจะไม่ค่อยเป็นธรรมกับผมเท่าไหร่ ผมพร้อมรับฟังจากพี่สมปองว่าจะไหวขนาดไหน
ติ๋ม ทีวีพูล : พี่บอกลูกว่า ส่วนของลูกเป็นเรื่องของธุรกิจ ก็เอาที่รับไหว ในส่วนที่พี่ให้ส่วนตัว ไม่ได้ไปคิด เราเพียงต้องการจะปกป้องลูกพี่ เรื่องการเทงานลูกพี่ไป ทั้งดาราที่นัดไว้หรือช่างกล้องโน่นนี่นั้นเราเสียหายไปเยอะ เราแค่ต้องการป้องกันลูกเราอย่างเดียว เราอยากให้มันจบตรงนี้
คนที่ชักจูง ทิดสมปอง สู่วงการไวน์คือพี่ติ๋ม และพี่ติ๋มเป็นคนซื้อตู้ไวน์ให้เอง?
ติ๋ม ทีวีพูล : วันแรกที่เขาทานมื้อเย็นกับพี่ ก็สอนเขาทุกอย่าง การวางช้อน ธรรมเนียมต่างๆ รวมถึงการดื่มไวน์ พี่ก็ยอมรับจริงๆ ว่าพี่ก็สอนเขาว่าวิธีการทานสลัดวิธีการวางช้อนต้องวางแบบนี้กินไวน์ต้องกินแบบนี้ แล้วติดไวน์มาก แค่ 3 หยดตอนนั้น มันทำให้เขาเป็นแบบนี้รึเปล่า เรื่องตู้ไวน์ เขาพูดกับพี่หลายครั้ง พี่คิดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ต้องมีตู้ไวน์ในห้องผมนะ ต้องมีทุกยี่ห้อนะ เขาจะเอาทั้งหมดเลย ถ้าพี่ติ๋มไม่เอามาให้ผมนะ ผมจ่ายให้เลย 5 หมื่น เขาพูดเหมือนเด็กที่งอแง จะเอาของให้ได้
พี่ติ๋มขอให้เขาถือศีล 5 แต่ให้เขาลองไวน์ มันย้อนแย้งไหม?
ติ๋ม ทีวีพูล : เรื่องถือศีล 5 พี่รักเขาเหมือนลูก บางอย่างที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงพี่ก็จัดให้ ไวน์สำหรับบางคนก็ดีต่อร่างกาย ถือเป็นยาได้เหมือนกัน แต่ศีล 5 กับความกตัญญู พี่อยากให้เขารักษาเอาไว้
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ ทิดสมปอง ออกจากบ้านมา ก็คือการที่พี่ติ๋มไปตีกรอบเขาเรื่องคบเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง?
ติ๋ม ทีวีพูล : ไม่ใช่แค่ผู้หญิงอย่างเดียว ผู้ชายก็มี พี่ก็บอกว่าคนนี้มีข้อดีข้อเสียแบบนี้นะ เราอยู่วงการมานาน เราก็บอกเขาว่าคนนี้คบได้ แต่อย่าให้สื่อเห็น คนนี้คบไม่ดีเลย คนไหนที่เอากิเลสมาใส่ตัวเรา คนนั้นหวังร้ายกับตัวเราแน่นอน บวชเป็นพระมานาน อาจไม่รู้ว่าโลกภายนอกโหดร้ายแค่ไหน พี่เป็นทีวีพูล รู้จักดารามากมาย เราไม่ต้องหวังแสงจากเขา เราแค่อยากเดินสายธรรมะ เราจบจากปัญหารุมเร้า กสทช.มาได้ เพราะว่าธรรมะ เพราะว่าคำสอนของพระพุทธเจ้า เราถือศีลมา 6 ปี สวดมนต์ได้เกือบทุกบท ไม่ต้องกังวลว่าเราจะหวังแสงจากเขา เพราะแสงของทีวีพูลเจิดจรัสมา 37 ปีแล้ว เราพูดซ้ำๆกับเขาทุกวัน จะชวนทำคอร์สธรรมะ ทำนั่นทำนี่ เดินสายธรรมะกัน วางแผนจนถึงไปทัวร์ธรรมะที่ต่างประเทศ ที่พี่คอยเตือนเขา เขาเชื่อไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่ครั้งนี้เขาเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ พี่รักษาคำพูดนะ พี่เคยบอกว่าจะให้ยังไงก็ให้อย่างนั้น
เต้ กันต์พงษ์ : เรื่องการเตือนเขาเรื่องการคบคนอาจเป็น 1 จุดที่ทำให้เขาไม่สบายใจ แต่เราก็ไม่ถึงขั้นตีกรอบเขาเลย เป็นการแนะนำมากกว่า ปกติเราคุยกันเรื่องงานเป็นหลักแต่แง่การทำงาน การคบคน สภาพแวดล้อม มีผลกระทบต่อเขาแน่นอน ยิ่งเขามีงาน 3 รายการ ที่เขาต้องทำงานกับเรา ถ้าเขามีข่าวไม่ดี ภาพลักษณ์เสีย มันก็จะส่งผลกระทบต่อเรื่องเรตติ้งแน่นอน
เขาอยากจะเข้ามากราบขอขมา พี่ติ๋ม จะให้โอกาสเขาไหม?
ติ๋ม ทีวีพูล : ในวันที่แถลงข่าว พี่บอกแล้วพี่อโหสิให้ แล้วพี่ว่างเปล่าสำหรับเขา เราไม่ต้องเจอกันไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน พี่เป็นคนรักษาคำพูด ไม่งั้นจะเป็นไม้หลักปักขี้เลน พี่บอกกับเขาตลอด พี่เป็นคนรักษาคำพูด ที่พี่ออกมาพูด พี่แค่ออกมาปกป้องลูกพี่และออกมาปกป้องทีวีพูล คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว เขาจะเป็นยังไงก็เรื่องของเขา
เข็ดไหมกับการช่วยเหลือคน?
ติ๋ม ทีวีพูล : พี่ไม่เข็ดหรอก ถ้ามีคนมาขอความช่วยเหลือก็ยังช่วยอยู่ เพราะไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด บ้านพี่บางทีมีดาราโดนแฟนซ้อมน่วม มากดออดหน้าบ้านพี่ พี่ก็ให้เขามานอนคืนนึง บางคนท้องแล้วมาหาเรา แต่แฟนไม่รับผิดชอบ เขาบอกเขาจะทำแท้ง เราก็บอกว่าอย่าทำนะ เดี๋ยวพี่พาไปอยู่ออสเตรเลีย ทำวีซ่าให้
พี่ติ๋มให้ใจกับเขามาก จนคนมองว่าเกินไปหรือเปล่า?
ติ๋ม ทีวีพูล : พี่ช่วยดาราแบบนี้มาก็หลายคน เพียงแต่ว่าสมปองเขาเป็นผู้ชาย คนเลยมองไปในแง่นั้น คนดังผู้หญิงพี่ก็ช่วยมาหลายคนแล้ว แต่คนไม่มองจุดนั้น
จากเหตุการณ์นี้ พี่ติ๋มได้บทเรียนอะไรบ้าง?
ติ๋ม ทีวีพูล : จะบอกว่าไม่ทุกข์เลยก็โกหกตัวเอง พี่ต้องบังคับตัวเองว่าจะต้องไม่ร้องไห้ เราเป็นผู้นำองค์กร เป็นผู้นำครอบครัว เป็นผู้นำในวงการ เราจะหลวมตัวมาเล่นเกมนี้ได้ยัง ก็ยึดคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงผ่านมาได้
ขอบคุณ รายการถกไม่เถียง