ซินแสเข่ง ผ่าดวง "ไฮโซปอ" เจ้าของสปีดโบ๊ท ลั่น คดีจะได้รับการช่วยเหลือ
ซินแสเข่ง ผ่าดวง ไฮโซปอ ตนุภัทร เจ้าของสปีดโบ๊ท ปม แตงโม นิดา พลัดตกเรือเสียชีวิต ลั่น เดี๋ยวคดีก็จะได้รับการช่วยเหลือ
กรณีการพบร่างของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวมากความสามารถที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท จนดาราสาวจมน้ำเสียชีวิตในวัยเพียง 37 ปี ซึ่งต้องระดมกำลังตามหานานกว่า 36 ชั่วโมงกว่าจะพบร่างอันไร้วิญญาณของเธอ
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้เรียกบรรดากลุ่มเพื่อนของ แตงโม นิดา และผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาว รวมทั้ง ไฮโซปอ ตนุภัทร ที่เป็นผู้ขับขี่เรือสปีดโบ๊ทดังกล่าวขณะเกิดเหตุการณ์ รวม 5 คน เข้าให้ปากคำและรายละเอียดต่างๆ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการเกิดอุบัติเหตุขึ้นในครั้งนี้
ภาพจาก เนชั่นทีวี
ต่อมา ทนายความไฮโซปอ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อดูสำนวนคดี และคาดว่าไฮโซปอ กับเพื่อนจะเดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่ง ไฮโซปอ และ โรเบิร์ต โดน ตั้ง 3 ข้อหา คือ 1. ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. นำเรือที่ขาดต่อภาษีมาใช้ 3. ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ก่อนที่ ทนายความและญาติขอยื่นประกันตัว โดยใช้วงเงินยื่นประกันคนละ 2 แสนบาท
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซินแสเข่ง อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย ได้ผ่าดวงวิกฤตอุบัติเหตุ ประมาท หรือเจตนา ที่ทำ แตงโม นิดา ดาราสาวอายุ 37 ปี พลัดตกเรือจนเสียชีวิต
โดย ซินแสเข่ง เกริ่นว่า ทั้งอยู่ในช่วงดวงตกดาวบาปพระเคราะห์ยังไม่เคลื่อนย้าย กลายเป็นโศกนาฏกรรม บวกเจ้าของเรือ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ "ไฮโซปอ" กับ แตงโม ดาราสาว และพวก นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต ติดร่างแหคดีความ กระทำโดยประมาท หลังการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ได้รับการประกันตัวไป วงเงินประกัน คนละ 200,000 บาท และมีเงื่อนไขห้ามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ ซินแสเข่ง ที่ได้ผ่าดวงวิกฤต ไฮโซปอ หรือ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ทที่เกิดเหตุ นักธุรกิจนำเข้ารถหรู วัย 39 ปี ซึ่ง ไฮโซปอ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2526 ปีกุน ธาตุน้ำ ตกดวงชะตาทับดาวบาปพระเคราะห์ ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ถึงเดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม ถึงจะพ้นเคราะห์
และปะทะเดือนแห่งความขัดแย้งเป็นศัตรู สาดซัด ไม่ปรองดองคดีความ เพราะความดื้อรั้น ใช้ความคิดของตนเองเป็นที่ตั้ง มีดวงชะตาที่ปะทะในตนเอง ก่อให้เกิดชะตาชีวิตที่พลิกผัน แตกแยก แยกทาง ชีวิตต้องพลัดพราก และตายจาก ต้องเหตุให้เกิดคดีความจากการกระทำของตนเอง
ก่อให้เกิดความวิบัติอันรุนแรง กับเรื่องสะเทือนใจ ประกอบกับทั้งตนเอง และผู้เสียชีวิตตกในชะตาเดียวกัน จากการกระทำ จึงทำให้เกิดเหตุเกิดขึ้น หากเกณท์ดวงชะตา ตกอยู่ในช่วงท้ายของรอบอายุ เหตุเกิดหากไม่ระวัง จะส่งผลให้เกิดการสูญเสียเกิดขึ้น
ฝ่ายหนึ่งสูญเสียถึงแก่ชีวิต อีกฝ่ายหนึ่งก็สูญเสียจากการกระทำให้เป็นเหตุและทำให้ต้องคดีความทางกฎหมาย และอาจจะติดคุกได้เหมือนกัน เสมือนเป็นการพลัดพราก ต้องจากที่หนึ่งไปอยู่อีกที่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นผ่านไป คดีก็จะได้รับการช่วยเหลือ เพราะได้ดาวเกตเสริมดวงชะตา ทั้งที่มีเรื่องขัดแย้งคดีความให้เกิดขึ้น