แม่แตงโม ยันชัด "เงินไม่สำคัญเท่าลูก" หลังเกิดกระแสตีกลับหนักหน่วง
แม่แตงโม นิดา ยันชัดเงินไม่สำคัญเท่าลูก ชี้ไม่ได้เชื่อใจไฮโซปอ 100 เปอร์เซ็นต์ เชื่อยังมีอะไรอีกที่ต้องหาความจริง
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างมาก เมื่อ “แม่จิ๋ม ภนิดา” คุณแม่ของ “แตงโม นิดา” เปิดใจใน รายการโหนกระแสของพิธีกร หนุ่ม กรรชัย ในกรณี “แตงโมตกเรือ” เสียชีวิตที่ทำให้หลายคนถึงกับเหวอทันทีเมื่อคุณแม่ของแตงโมเผยว่าตนอภัยให้ปอกับโรเบิร์ต เพราะเขามีเจตนาดีและมีความสม่ำเสมอ เป็นผู้ชายที่สุภาพที่สุดเท่าที่คุณแม่เคยเจอมา
ส่วนทางด้าน ฮิปโป - แอนนา แม่ยกโทษให้แค่ 50% แม่รู้สึกว่ายังไม่เคลียร์กับการที่ฮิปโปมาบอกแม่ว่าไม่ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในคืนวันที่แตงโมตกน้ำและการให้ข่าวแตงโมทุกวันนี้ของแอนนากับฮิปโป มีสิทธิ์อะไรที่ไปให้ข่าวโดยไม่ขออนุญาตแม่เลย งานนี้เลยเป็นกระแสตีกลับในคำพูดที่คุณแม่ได้กล่าวออกไปทันที
ล่าสุด “แม่แตงโม” ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “อีจัน” ว่า ตอนนี้คิดถึงลูกมาก และ “แตงโม” มาหาด้วย แต่มาในลักษณะเงา โดยขอยืนยันว่าความสัมพันธ์กับลูกสาวผูกพันอย่างมาก ต้องจูบหอมกันเป็นประจำ ส่วนเรื่องเงิน 30 ล้านบาท เป็นการสมมุติให้ “หนุ่ม กรรชัย” ฟังเท่านั้นโดยเป็นการประเมินถึงรายได้ของลูกสาว หากยังมีชีวิตอยู่ต่ออีก 30 ปี ซึ่งเป็นการคำนวนเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหม ส่วนตัวขอย้ำว่าพูดความจริงทั้งหมดแต่อาจเป็นคนพูดตรงๆ แล้วไม่ค่อยอธิบายให้ชัดเจน จึงทำให้คนเข้าใจผิด
ส่วนทางด้านคดีความ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะตำรวจไม่บอกอะไรให้รู้เลย แต่ตนเองเชื่อมั่นตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ขอย้ำว่าไม่ได้สนใจเรื่องเงิน 30 ล้านบาท แต่สนใจเพียงว่า เมื่อไหร่คดีจะจบลงสักที โดยตอนนี้ตนเองยังไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกแบบเต็มตัว แต่อยู่ในขั้นตอนยื่นเรื่องต่อศาล นอกจากนี้ “แม่แตงโม”ยังชี้แจงเรื่องติดใจเพื่อนสนิทลูกสาวอย่าง “ฮิปโป-แอนนา” ว่า ส่วนของ “ฮิปโป” เป็นคนแรกที่เชิญคุณแม่ออกไปจากท่าเรือ อ้างว่ามีบุคคลสำคัญต้องการเจอ และมี “แตงโม” อยู่ด้วย โดยขอไม่ให้ข่าว แต่เมื่อไปแล้วไม่เจอ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ดี และโกรธมาก
ช่วงแรกได้คุยกับ “ฮิปโป” แล้วมีการขอโทษกันแล้ว แต่มาเจอเรื่องใหม่ คือเรื่องการเปลี่ยนสถานที่จัดงานศพ ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ โดยไม่ปรึกษาตนเอง แต่ตอนนี้ถ้าขอโทษอีกครั้ง ก็พร้อมให้อภัย 100% แล้ว เพราะคุณแม่ไม่เคยโกรธใคร เพราะโกรธคนไม่เป็น ส่วนเรื่อง “แอนนา” เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ซึ่งส่วนตัวไม่เคยติดใจอะไรกับคนนี้เลย โดยงานศพจะมีขึ้นในวันที่ 11-13 มี.ค.ภายในงานรับแขกได้ประมาณ 1,400 คน และจะมีงานเผาวันที่ 14 มี.ค.ทั้งนี้ตนเองได้คุยกับ “ปอ” มาอยู่แล้ว เพราะอีกฝ่ายโทรศัพท์มาหาทุกวัน และบอกอยากกราบเท้าขอขมา รวมถึงมีการทำบุญให้ “แตงโม” ด้วย เขาบอกว่าอยากดูแลคุณแม่ ไม่น้อยไปกว่า “แตงโม” คำพูดของเขา ถือว่าประทับใจเรา ก่อนจะมีการขออนุญาตเป็นลูกคุณแม่อีกคน
ส่วนกรณีเจอ “เส้นผม” ตรงใบพัดนั้น ทาง “แม่แตงโม” บอกว่า ตรงนี้ไม่รู้ว่ามันสอดคล้องกับเรื่องปัสสาวะท้ายเรือหรือไม่ เพราะว่าทุกคนไม่ได้พูดความจริง ซึ่งมองว่า “แซน” วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เป็นคนที่รู้ดีที่สุด ขอย้ำว่าไม่ได้สนใจเรื่องเงิน 30 ล้านบาท เพราะตนเองรู้ดีว่า หนี้สินของ “แตงโม” ยังมีอยู่ โดยเฉพาะหนี้บ้าน 2 หลัง และรถ 1 คัน หลังจากนี้ต้องจัดการเรื่องหนี้สิน แต่เรื่องค่าปลงศพ หรือค่าสินไหมทดแทน เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องคุยกับ “ปอ-โรเบิร์ต” เพราะเป็นผู้ต้องหาที่โดนคดี และถ้าไปเรียกร้องกับ “กระติก” อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เขาคงไม่มีอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องกรมธรรม์ที่ “แตงโม” ทำไว้มอบให้ “ลูกกระติก” ตนเองไม่ได้ต้องการจะเอามา โดยทางทนายความแนะนำว่า ให้นำเงิน 1 ล้านบาท เขียนคำร้องนำไปฝากไว้ที่ศาลเยาวชน เมื่อ “ลูกกระติก” โตขึ้นอายุถึงตามเกณฑ์ อย่างอายุ 10 หรือ 15 ปี ก็สามารถเบิกมาใช้ได้ แต่ต้องขึ้นอย่ากับศาลเพื่อใช้ในการศึกษาเท่านั้น โดยทาง “กระติก” ไม่สามรถเบิกถอนออกมาได้