"โยคีปอ" เล่านาทีระทึก โดนรถ 3 คันประกบ ก่อนถูกชายชุดดำอ้างเป็นตชด.
"โยคีปอ" เล่านาทีระทึก โดนรถ 3 คันประกบ ก่อนถูกชายชุดดำอ้างเป็นตชด. ตรวจค้น หลวงพี่อุเทนลั่น ใครจะแจ้งตำรวจมาเปลี่ยนประเด็น
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้หลวงพี่อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กบอกเอาไว้ว่า ในเวลา 09.30 น. อาตมาจะแถลงข่าวเรื่องสำคัญมากเกี่ยวกับโยคีปอและโยคีโรเบิร์ต จะให้เขาพูดแล้ว อีกทั้งจะมีการเปิดเผยคลิปสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ข่าววัดท่าไม้
และแล้วก็ตามอย่างที่หลวงพี่อุเทน วัดท่าไม้ บอกว่าจะมีเรื่องแถลง ทว่าก่อนการเริ่มนั้น เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ได้บอกในไลฟ์ว่า "ถ้าไม่ได้แถลงเรื่องพี่ปอ กับ โรเบิร์ต จะตกใจมั้ย" ก่อนที่บรรดานักข่าวจะระบุว่า "ตกใจ เพราะหลวงพี่โพสต์ไว้ซะขนาดนั้น" แต่ทาง หลวงพี่อุเทน ได้ระบุว่า "หลวงพี่มีเรื่องที่น่าตกใจว่านั้นอีก"
นอกจากนี้ หลวงพี่อุเทน ยังได้เขียนชื่อ พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บังคับบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งระบุว่า ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะเล่าให้เหตุการณ์ให้ฟังว่า ในคืนวันที่ 17 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ทาง โยคีปอ และ โยคีเบิร์ต ถูกกลุ่มคนระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่สะกดรอยตาม
โดยในเนื้อหารายละเอียดนั้น หลวงพี่อุเทนเล่าว่า อาตมาถูกตชด.สกัดรถ อีกทั้งยังถูกสะกดรอยตาม ตั้งแต่บนเขา ซึ่งตอนแรกเราไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเราลงมาจากเขาสักประมาณ 02:00 น. เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่ให้เราพัก เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนอันตราย พวกเราจึงเดินลงมาข้างล่าง ซึ่งเราก็ได้บอกพราหมณ์ทั้งสองว่าพวกเราจะไปต่อเลย โดยจะเดินทางไปที่ จ.กาญจนบุรี เลยโดยไม่พักต่อที่นี่ แต่พอมาถึงวัดอาตมาก็สังเกตเห็นว่ามีรถจอด อยู่หน้าวัด ซึ่งตอนแรกนึกว่าเป็นรถของผู้สื่อข่าว แต่ที่ผิดสังเกตคือเห็นรถแอบอยู่อีกคัน
-"หลวงพี่อุเทน" เผยเตรียมแถลงเรื่อง ปอ - โรเบิร์ต ก่อนเขียนชื่อสองตร.ผู้ใหญ่
-ชาวเน็ตจับโป๊ะ "ไฮโซปอ-โรเบิร์ต" ภาพนั่งสมาธิ งานโปรดักชั่นแน่น จัดเต็มมาก
-"หมอพรทิพย์" พูดถึงกระเพาะปัสสาวะ "แตงโม นิดา" หลังสังเกตเห็นว่าไม่ได้เต็ม
ซึ่งตอนนั้นก็ยังคิดอยู่ว่าเป็นผู้สื่อข่าวจึงจะบอกไว้ว่าไม่ต้องตามก็ได้ เดี๋ยวจะเก็บภาพมาให้ดูก็ได้ แต่ขบวนของอาตมาซึ่งมีพราหมณ์ที่เท้าเจ็บ เราจึงบอกว่าที่เดินลงมาแล้วพึ่งเดินผ่านชายแดนแล้วมันมีกับระเบิด จึงคิดว่า มีพราหมณ์เท้าเจ็บด้วยและ อยู่ใกล้ชายแดนด้วยซึ่งมันอันตรายเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย อาตมาจึงให้นำรถออกเพื่อที่จะนั่งรถออกไปกัน
แต่ขณะที่กำลังจะออกจากวัด ก็มีเจ้าหน้าที่วัดเข้ามาถามว่าปกติวัดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดูแลด้วยเหรอ เพราะตำรวจนำไฟฉายมาส่องรถที่อาตมานั่ง แล้วบอกว่าขอตรวจรถ ถ้าพ่อออกไปถึงหน้าโรงเรียนจึงได้ทราบว่ารถถูกสกัด โดยเจ้าหน้าที่ตชด เพิ่งออกกะมาก็ถ่ายคลิปวีดีโอไปด้วย ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้ถูกให้สกัดหยุดรถ ไม่ให้กลับเข้ามาในวัดใหม่ มันคือเหตุการณ์ที่อาตมาจะแถลง
"โดยจากคำที่เจ้าหน้าที่ตชด.เหล่านั้นระบุบอกว่าเจ้านายให้มาดู แล้วก็มีรถต้องสงสัย มันก็คือรถของคณะของอาตมา" หลวงพี่อุเทนระบุ
จากนั้นหลวงพี่อุเทน วัดท่าไม้ จึงได้ให้ โยคีปอ อธิบาย ซึ่ง โยคีปอ ระบุว่า ขณะที่เรากำลังจะเดินทางออกไปกาญจนบุรีเนี่ยเราเจอสิ่งที่ไม่คาดฝันนั่นก็คือเราถูกสะกดรอยตามคันแรกเป็น Toyota Camry แต่พอถึงช่วงสามแยก ประมาณตรงภูผาผึ้ง เราได้จอดรถ และรถ camry คันนี้ก็ได้ ขับเลยเราไปแต่พอเลยเราไปปุ๊บ รถคันนี้กลับได้มาจอดตรงหัวมุมซึ่งนั่นทำให้เราตกใจมาก
จากนั้นก็มีผู้ชายใส่ชุดดำพร้อมกับกล้องเดินลงมาซึ่งตอนแรกเราเข้าใจว่าเป็นนักข่าว แต่นั่นทำให้เราติดใจสงสัยว่าทำไมเวลาตี 2 กว่านักข่าวยังติดตามเราอยู่ จึงคิดว่าไม่น่าใช่ แต่ก็เริ่มรู้สึกไม่ดี พวกเราจึงได้ขับรถเบี่ยงออกขวาเพื่อจะตรงไปทางเมือง พอใกล้ถึงสถานีตำรวจมีรถ Toyota จอดขวางทางเราอยู่ ซึ่งเป็นการจอดขวางแบบปิดถนนเลย
นั่นทำให้เราตกใจมาก จึงได้คิดในใจว่าทำไมต้องถึงขั้นปิดถนนแบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยมากๆ แล้วเราก็เลยกลับรถ แถวนั้นก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งเข้ามาประกบคู่ และสั่งให้เราจอด เราก็งงว่ามอเตอร์ไซค์คันนั้นไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ และไม่มีลักษณะอันใดเลยที่จะทำให้เราจอดได้ จึงได้ปรึกษาอาจารย์ระวังขับซึ่งพระอาจารย์บอกว่า "เขาอาจจะคิดว่าลูกหนี อาตมาชื่อว่าไม่มีอะไรลูก"
ระหว่างนั้นผมมีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยสุดๆ แล้ว เราจะมุ่งหน้าจากตรงร้านเพื่อกลับมาที่วัดเลย พอเราส่งกลับมาที่วัดระหว่างนั้นการเดินทางเรามี Toyota คันนี้ ขับตามที่มาเป็นระยะๆ โดยที่ไม่ปล่อย แล้วพอคณะผมมาถึงหน้าวัด ก็มีรถยนต์ปิดด้านหลังและมีรถกระบะที่อยู่ด้านหน้า แล้วถ้าจำไม่ผิดก็มีรถ Toyota Camry อีก 1 คัน
เราจึงลงจากรถแล้วถามว่า "ตามเรามาทำไม" ซึ่งเขาบอกว่า "รถคุณต้องสงสัย" ซึ่งผมก็งงในใจว่า 'รถผมต้องสงสัยยังไง' จากนั้นเราเลยถามเขากลับว่า "เป็นตำรวจเหรอ" เขาก็บอกว่า "เป็นตำรวจ" ผมก็ถามกลับอีกว่า "ตำรวจหน่วยไหน งานอะไร ตรวจเรื่องอะไร" ทันใดนั้นตำรวจ 1 คน ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นตำรวจไหม ก็วิ่งถอยกลับขึ้นรถแล้วก็ขับรถหนีไปเลย
ซึ่งคนที่หนีไปเป็นรถ Toyota และอีกคันนึงเป็น Toyota Camry ขับหนีไปด้วยกัน ทำให้ มีคนที่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจยืนอยู่หน้าวัด 3 นาย ผมจึงสงสัยว่าตำรวจทำไมต้องหนีทำไมต้องหนีประชาชน จากที่มองว่ามาติดตามว่าเราทำอะไรผิดกลับมองว่าตำรวจทำอะไรผิด
หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นเราก็ถามเขาว่าเขาเป็นใครซึ่งเขาไม่บอกแต่ว่าพกปืนอยู่ข้างเอว แต่เวลานั้นตี 2 กว่าแล้วเรารู้สึกว่า ผมขอพูดตรงๆ นะว่าผมตกใจและงงมาก แล้วหลังจากนั้นเขาก็ไม่ยอมแสดงตัวไม่ว่าจะทำยังไงเขาก็ไม่ยอมแสดงตนโดยเด็ดขาด ว่าเป็นใครเป็นตำรวจจริงไหม ซึ่ง ผมใช้เวลาพักใหญ่ๆ เพื่อที่จะบอกเขาว่าผมเป็นผู้ทรงศีลนะ
หลังจากนั้นพระที่วัดคนก็เริ่มออกมา เราจึงพาเขามาคุยข้างใน แล้วพอพระอาจารย์ทราบเรื่องพระอาจารย์ก็เข้ามาคุยด้วย ซึ่งเรามีความแจ้งความไปแล้ว ทั้ง 191 และตำรวจท้องที่ ซึ่งตำรวจก็เข้ามาที่วัดกัน
ก่อนที่ หลวงพี่อุเทน จะเล่าเสริมว่า "เขาบอกว่าเขามีคำสั่งมาเขาบอกว่านายสั่งมา ซึ่งอาตมาเป็นพระด้วย ช่วงเวลานั้นแม่ชีก็เต็มรถเลยโยม ซึ่งทุกคนเป็นพยานได้ว่า เขาบอกว่านายสั่งมาว่าให้มาตามดู ซึ่งนี่คือสิ่งที่จะแถลงแล้วก็ฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องด้วย ขอให้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตชด ทราบเรื่องว่าลูกน้องในพื้นที่ทำแบบนี้กับวัด ทำแบบนี้กับพระสงฆ์แบบดีค่ะชีพราหมณ์ โยมทำได้หรอ ด้วยการปิดถนนแล้วพบกันแบบนี้"
อย่างไรก็ตาม ช่วงตอนหนึ้ง หลวงพี่อุเทนจะพูดขึ้นมา 1 ประโยคว่า "โยมใครจะแจ้งตำรวจมาเปลี่ยนประเด็น มันเป็นไปไม่ได้โยม คิดในทางกลับกันถ้ายอมเป็นชาวบ้านแล้วเจอรถตำรวจขวางถนนโยมจะรับได้ไหม"
ภาพจาก Nation Online