ระวัง! สายพันธุ์โอมิครอนลูกผสม "BA.2 + BA.1.1" กลายพันธุ์ก้าวกระโดด
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เตือนระวัง! โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนลูกผสม "BA.2 + BA.1.1" กลายพันธุ์ก้าวกระโดด
เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics - ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า
ระวังสายพันธุ์โอมิครอน โควิดลูกผสม BA.2 + BA.1.1 กลายพันธุ์ก้าวกระโดด ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม "อู่ฮั่น" ถึง 100 ตำแหน่ง ต่างจาก BA.2 ประมาณ 30 ตำแหน่ง ยังไม่พบในประเทศไทย แจ้งเตือนเพื่อความไม่ประมาท ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องกังวล
มีรายงานด่วนจากเบลเยียม แจ้งว่ามีเกิดการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1, BA.1.1, และ BA.2 พร้อมกันมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 (ภาพ 1) อันน่าจะเป็นเหตุให้ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสมที่แพร่กระจายอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯได้ดาวน์โหลดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของสายพันธุ์ลูกผสมจากเบลเยียมมาจากฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID” จำนวน 22 ตัวอย่างมาวิเคราะห์ พบว่ารหัสพันธุกรรมคล้ายกับโอมิครอน ไม่สามารถจำแนกหรือระบุสายพันธุ์ได้ด้วย "แอปพลิเคชัน Pangolin (Pango v.3.1.20 2022- 02-28)" แต่จากการวิเคราะห์เชิงลึกด้วย "แอปพลิเคชัน Nextclade" พบว่าไวรัสในคลัสเตอร์นี้จีโนมส่วนใหญ่มาจากโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แต่มีส่วนน้อยได้รับมาจากยีน "ORF1a (2832-10029)" และ "ORF1b(160464-18163)" ของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1.1 เข้ามาร่วมผสมเกิดเป็นสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์แบบก้าวกระโดด (ภาพ 2) เพราะเดิม BA.2
มีการกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.1 อยู่ 10 ตำแหน่ง และ BA.1 มีการกลายพันธุ์ต่างไปจาก BA.2 อยู่ 13 ตำแหน่ง (ภาพ 3) เมื่อมาผสมรวมกันส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่นถึง 100 ตำแหน่ง และต่างจาก BA.2 ประมาณ 30 ตำแหน่งอันน่าจะเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ไปมากที่สุดในขณะนี้ (ภาพ 2) อาศัยการคำนวณจากรหัสพันธุกรรมและช่วงเวลาที่ตรวจพบ พบว่าสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage นี้มี "growth advantage" หรือความสามารถในการแพร่ระบาดเหนือกว่า BA.2 ประมาณ 0.47 เท่า (47%) ซึ่งไม่มากนัก (ภาพ 4)
- ยังไม่มีข้อมูลทางระบาดวิทยาว่าสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage แพร่ติดต่อได้รวดเร็วกว่า BA.2 กี่ %
- ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ลูกผสม BA.2/BA.1.1 recombined linage มีอาการรุนแรงมากกว่าหรือน้อยกว่าสายพันธุ์โอมิครอนสายพันธุ์ BA.1, BA.1.1, BA.2
- การหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันหรือการด้อยประสิทธิภาพวัคซีนไม่น่าจะแตกต่างจาก BA.2 เพราะไม่พบการกลายพันธุ์จำนวนมากบนจีโนมในส่วนของ “ยีน S” ที่ควบคุมการสร้างส่วนหนาม
จากการสแกนหาในฐานข้อมูลโควิดโลก "GISAID" ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยจัดเก็บรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสโคโรนา 2019 ตั้งแต่เริ่มการระบาดจนถึงปัจจุบันจำนวนกว่า 9.63 ล้านตัวอย่าง ยังไม่พบ BA.2/BA.1.1 recombined linage ในประเทศไทย
ในอนาคตอันใกล้หากมีความจำเป็นต้องตรวจกรองลูกผสม “BA.2 + BA.1.1” เป็นจำนวนมากศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯสามารถพัฒนาชุดตรวจ “Mass Array Genotyping” มาตรวจสอบรหัสพันธุกรรมสายพันธุ์ลูกผสมได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 24-48 ชั่วโมงด้วยเวลาที่สั้นกว่าและค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม โดยใช้เวลาในการพัฒนาการตรวจไม่เกิน 2 สัปดาห์
ขอบคุณ FB : Center for Medical Genomics