รัสเซีย - ยูเครน เจรจารอบใหม่ เซเลนสกี ยื่น 6 ข้อเรียกร้องสถานะเป็นกลาง

ขณะที่ทั่วโลกกำลังภาวนาให้การรุกรานของรัสเซียที่โจมตียูเครนให้หยุดลงโดยเร็ววัน เนื่องจากสถานการณ์นี้สร้างความสูญเสียให้กับหลายครอบครัวจริงๆ ซึ่งจากรายงานระบุว่า มีคนดังในยูเครนหลายคนต้องสังเวยชีวิตในศึกครั้งนี้ ซึ่งล่าสุด ผู้แทนเจรจายูเครนและรัสเซียเริ่มการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในวันนี้ โดยมีตุรกีเป็นเจ้าภาพ และย้ำให้ทั้งสองฝ่ายหาทางบรรลุข้อตกลงโจมตี

โดยประธานาธิบดีเรเจ๊ป ไรยิบ แอร์ดวน ของตุรกี กล่าวเปิดการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่นครอิสตันบุลของตุรกีในวันนี้ โดยเรียกร้องให้สองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และย้ำว่า ความคืบหน้าของการเจรจาอาจปูทางสู่การพบปะระหว่างประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศในอนาคต และทั้งโลกกำลังรอคอยข่าวดีจากผู้แทนเจรจาของทั้งสองฝ่าย

 

แต่สถานีโทรทัศน์ของยูเครน รายงานว่า การเจรจารอบที่ 5  ที่จัดเป็นครั้งแรกในตุรกี เริ่มต้นด้วยการต้อนรับอย่างเย็นชา และไม่มีการจับมือระหว่างผู้แทนของสองฝ่าย ซึ่งการเจรจากำหนดจัดขึ้นนานสองวัน โดยเป็นการพบปะกันตัวต่อตัวครั้งแรกในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ และมิไคโล โปโดเลียก หัวหน้าคณะเจรจาของยูเครน เปิดเผยว่า ประเด็นที่ได้พูดคุยกัน คือ เรื่องหลักประกันด้านความมั่นคงแก่ยูเครน และการหยุดยิงเพื่อบรรเทาสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม

นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่ถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกเข้าร่วมการเจรจาด้วย และโฆษกทำเนียบเครมลิน ชี้แจงว่า อับราโมวิชไม่ใช่ตัวแทนอย่างเป็นทางการในคณะเจรจาของรัสเซีย แม้ร่วมโต๊ะเจรจาในฝั่งของรัสเซีย และตอบโต้ข่าวที่ว่า อับราโมวิชอาจถูกวางยาพิษเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงและเป็นส่วนหนึ่งของสงครามข่าวสาร

สำหรับ ตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การนาโต และมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งรัสเซียและยูเครน พยายามแสดงบทบาททางการทูตในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้นด้วยการเสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย และประธานาธิบดีแอร์ดวน คุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเมื่อวันอาทิตย์ ย้ำว่า ข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพควรบรรลุผลโดยเร็วเท่าที่ทำได้

 

ดูเหมือนว่า การเจรจารอบนี้มีสัญญาณบวกเมื่อหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า รัสเซียเลิกเรียกร้องเรื่องกำจัดนาซีในยูเครน และยอมเปิดทางให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปโดยต้องมีสถานะเป็นกลางทางทหาร และดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน คาดหวังว่า การเจรจาจะมีความคืบหน้าเรื่องการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นอย่างน้อย หรืออาจถึงขั้นบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่ก็ย้ำว่าจะไม่ยอมแลกด้วยประชาชน ดินแดน หรือ อธิปไตย

 

ส่วนการเจรจารอบอื่นๆ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพบปะกันตัวต่อตัวที่เบลารุสครั้งแรกและการเจรจาผ่านระบบวิดีโอ ไม่มีความคืบหน้าพอยุติการสู้รบที่ยืดเยื้อนานกว่าหนึ่งเดือน คร่าชีวิตหลายพันคน และทำให้ชาวยูเครนกว่า 10 ล้านคนละทิ้งบ้านเรือน ซึ่งเกือบ 4 ล้านคนอพยพออกนอกประเทศ

ในการนี้ ยูเครน ได้เปิดข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ "สถานะเป็นกลาง" ซึ่งหมายถึง ยูเครนไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางการทหารใดๆ ซึ่งรวมไปถึง นาโต และจะไม่ให้ประเทศเป็นที่ตั้งฐานทัพกับต่างชาติ และเพื่อไม่ให้ ยูเครน ถูกรุกรานอีกครั้งหลังสิ้นสุดสงคราม ยูเครน จึงเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการ "รับรองด้านความมั่นคง" จากชาติอื่นๆอีก 6 ข้อด้วยกัน

ข้อเรียกร้องของยูเครนในเรื่องนี้ ยูเครน ต้องการให้มีการลงนามในสนธิสัญญาระดับนานาชาติลงนามโดย ชาติผู้ให้การรับรองความมั่นคง ซึ่งโดยมีรายละเอียดคือ

1.กรณีเกิดสงคราม หรือการรุกราน หรือปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ชาติผู้ให้การรับรองมีข้อผูกมัดทางกฎหมายที่จะให้ความช่วยเหลือทางการทหารกับยูเครนภายใน 3 วัน
2.ความช่วยเหลือจะเป็นรูปแบบของการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และการปิดน่านฟ้า (ความช่วยเหลือซึ่งชาติตะวันตกปฏิเสธที่จะทำในสงครามยูเครนเวลานี้)

3.ผู้ให้การรับรองจะเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นั่นก็คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รวมถึงรัสเซีย ซึ่งจะต้องมีการหารือแยกส่วนออกไป
4.ยูเครนต้องการให้ ตุรกี เยอรมนี แคนาดา อิตาลี โปแลนด์ และอิสราเอลมีส่วนร่วมเป็นผู้ให้การรับรองความมั่นคงกับยูเครนด้วย
5.การรับรองความมั่นคงจะไม่บังคับใช้ในดินแดนที่รัสเซียยึดครองอย่างโดเนตสค์ และ ลูฮานสค์ เป็นการชั่วคราว
6.ชาติผู้ให้การรับรองความมั่นคงจะต้องไม่คัดค้านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครน และต้องให้ความช่วยเหลือในกระบวนการนั้นด้วย

ด้านรัสเซีย เวลานี้ยังแม่มีการตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว อย่างไรก็ตามรัสเซียยืนยันที่จะ ลดปฏิบัติการทางทหารลงในบริเวณโดยรอบกรุงเคียฟ และเมืองเชอร์นิกอฟ ตอนเหนือของยูเครนลง ซึ่งนั่นส่งสัญญาณที่ดีต่อการเจรจาในขั้นต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า ศักยภาพของกองทัพยูเครนถูกทำลายเสียหายหนัก และย้ำว่า ภารกิจสำคัญของปฏิบัติการระยะแรกเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมกับเตือนว่า รัสเซียจะตอบโต้อย่างเหมาะสม หากชาติสมาชิกนาโตจัดส่งเครื่องบินและระบบป้องกันภัยทางอากาศให้ยูเครน

ภาพจาก เนชั่นทันโลก NTV World News