"เต้ มงคลกิตติ์" เคลื่อนไหว หลังมีข่าวจะโดนดำเนินคดี
"เต้ มงคลกิตติ์" เคลื่อนไหว หลังมีข่าวจะโดนดำเนินคดี ซัดกลับ เตรียมตรวจสอบการทำงานของชุดทำคดีแตงโมทุกนาย.
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา "เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กเผยว่า
#ความจริงไม่อยากทำถ้าไม่จำเป็น#
เห็นว่า ทนายเดชา แจ้งว่าทาง ผบช.ภ 1 จะปิดคดี แตงโม 18/4/65 และ จะดำเนินคดีผม-อัจฉริยะ-ทนายกฤษณะ ทีมงาน พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ตั้งข้อสันนิษฐาน ข้อสงสัย ไม่เหมือนที่ ตร.สรุป
ซึ่งทั้งที่ ตร.สรุป ก็ใช่ว่า อัยการ จังหวัดนนทบุรีจะเห็นฟ้องด้วยทุกข้อหาที่ตั้งไป อาจผิดหรือถูกก็ได้ อีกทั้ง ก็ต้องรอศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฏีกา ตัดสินคดีให้ถึงที่สุดก่อนว่า ข้อกล่าวหาหลัก ข้อกล่าวหารอง เป็นเช่นไร อีกทั้ง หาก ตร.จะดำเนินคดีกับผมและคณะฯ จากการตั้งข้อสันนิษฐาน ข้อสงสัยของประชาชนแห่งคดี ว่าเป็นเท็จ ตร.จะต้องให้ศาลต้น-อุทธรณ์-ฏีกา วินิจฉัยก่อนว่า หลักฐานไหนจริงก่อน ถึงจะมาดำเนินคดีกับ ผมและคณะฯได้ ว่าข้อสงสัยนั้นเป็นเท็จ เป็นการทำให้ประชาชนสับสน
หลัก คือ หลักฐานไหนจริง หลักฐานไหนไม่จริง ต้องมีคำวินิจฉัยของศาลฏีกา ออกมาก่อน จึงจะดำเนินคดีได้ เพราะต้องรอคดีหลักตัดสินสิ้นสุดเสียก่อน
ดังนั้น ระหว่างรอ ว่า ผบช.ภ1-รอง ผบช.ภ1 พร้อมคณะฯ จะดำเนินคดี ผมและคณะฯ ในช่วง 13-17/4/65 ผมมอบให้คณะฝ่ายกฏหมาย เตรียมตรวจสอบการทำงานของ ผบช.ภ1-รอง ผบช.ภ1 และ คณะพนักงานสอบสวน คดีแตงโมทุกนาย ว่ามีสิ่งใดที่ท่านทำไม่ครบบ้าง หรือ ล่าช้า หรือ อาจจะละเว้นการดำเนินการตามกฏหมายบ้าง อาทิ
1.การตรวจแอลกอฮอล์ล่าช้า กับ คนบนเรือทั้ง 5 คน หรือไม่
2.การยึดวัตถุพยานล่าช้า อาทิ เรือ มือถือ ใช่หรือไม่
3.การตรวจสารเสพติดผ่านเส้นผม ทั้ง 5 คน ว่าได้ตรวจหรือยัง ถ้ายังทำไมถึงยังไม่ตรวจ
อื่นๆ อีกหลายกรณี
ถ้าฝ่ายกฏหมายสรุปแล้ว ว่าสามารถดำเนินการได้ เบื้องต้น ก็จะดำเนินการดังนี้
1.ร้องเรียน ถึง นายกรัฐมนตรี ฐานะ ประธาน ก.ตร. มอบ ผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบทางวินัยร้ายแรง ต่อไป
2.ร้องเรียนต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช)
3.ดำเนินคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดย ตรง
สุดท้าย พรรคไทยศรีวิไลย์ มีนโยบาย ช่วยป้องกันและปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบและอบายมุขต่างๆ หรือ เรียกว่า ส่วย เช่น บ่อน ตู้สล๊อต ตู้ม้า ซ่อง หวยใต้ดิน ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง
ซึ่งเราจะส่งชุดเฉพาะกิจสัก 200 นาย เข้าไปสอดแนม
ในพื้นที่ อาทิ จว.พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สระบุรี, ปทุมธานี นนทบุรี และ สมุทรปราการ เพื่อให้ในพื้นที่ต่างๆ โปร่งใส่ต่อไป ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอีกแรง ดีมะ