"อัจฉริยะ" ซัดหลักฐาน "แตงโม" ยอมกัดฟันจนเสียชีวิต เพื่อบอกว่าเกิดอะไรขึ้น
"อัจฉริยะ" เผยหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่สำคัญ แสดงให้เห็นแล้วว่าแตงโมยอมกัดฟันจนเสียชีวิต เพื่อบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
จากกรณีผลแถลงสรุปสำนวนคดีแตงโม นิดา ตกเรือสปีดโบ๊ทที่เจ้าหน้าที่ได้จัดแถลงชี้แจงไปเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 ที่ผ่านมานั้น ยังไม่กระจ่างเท่าใดนักแก่ประชาชน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานอัยการ กระทั่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยอัยการนัดฟังคำสั่ง 27 พฤษภาคม ซึ่งอีกประเด็นที่หลายคนจับตาก็คือ บาดแผลตามร่างกายแตงโมนั้นเกิดจากอะไร
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า กระดูกอยู่ในสภาพปกติทั้งร่างกาย รวมไปถึงฟันที่อยู่ครบ พบปริมาณ บาดแผล 26 บาดแผล เกิดก่อนเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งจากการคาดการบนบาดแผลที่ใหญ่ที่สุดบริเวณขาด้านขวานั้น พบว่าเมื่อทำการทดลองกับ ใบพัดเรือแล้ว ปรากฏว่าเข้ากันได้อย่างพอดี ซึ่งจากการตรวจสอบโดยละเอียดถึงสามารถสรุปได้ว่า บาดแผลดังกล่าวถูกใบพัดเรือปั่นจึงทำให้เกิดบาดแผลต่างๆ ตามร่างกาย
ประเด้นดังกล่าวทำให้มีความคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (วันที่ 28 เม.ย. 65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกแพทย์สภา ที่แพทยสภากระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี เพื่อให้ตรวจสอบแพทย์นิติเวชในคดีของแตงโม ที่ให้ความเห็นและคำวินิจฉัย ว่าแผลที่เกิดขึ้นบริเวณต้นขาด้านขวาบนร่างแตงโม เข้าได้กับใบพัดเรือ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มาร้องทุกข์กล่าวโทษ แพทย์นิติเวช ตนไม่รู้ว่ากี่สถาบันเพราะมีแพทย์หลายท่าน ที่ไดัวินิจฉัยบาดแผลของแตงโม สิ่งที่พบเห็นและเป็นหลักฐานชัดเจนคือ ตอนแรกพบ 11 แผล บนร่างของแตงโม แต่พอไปผ่าพิสูจน์ศพครั้งที่ 2 ที่สถาบันนิติเวช กระทรวงยุติธรรม เพิ่มขึ้นเป็น 22 แผล
-"ทนายเดชา" แจงแล้ว ตร.ใหญ่ต่อสายตรง เผยความจริงปมภาพแผล "คดีแตงโม"
-ชาวเน็ตแห่เปิดภาพเทียบ "แผลแตงโม" จับโป๊ะตำรวจแถลงสรุปสำนวนคดี
-นาทีเดือด "ทนายเดชา" เผชิญหน้า "แต๊งค์ พงศกร" ลั่นไม่พร้อมคุยไปคุยกับตร.
"หลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่สำคัญ คือเรื่องทรายที่อยู่ในมือแตงโม แสดงให้เห็นแล้วว่าแตงโมยอมกัดฟันจนเสียชีวิต โดยกำทรายไว้อยู่ในมือ เพื่อบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง" นายอัจฉริยะ กล่าวหนักแน่น
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังระบุถึงในส่วนที่ตนจะทำต่อ พรุ่งนี้ (29 เม.ย. 65) เวลา 13.00 น. จะไปร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะส่อไปที่จะเป็นการฆาตกรรมอำพราง
อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า คดีนี้มี พล.ต.ต. เป็นคนวางแผนบงการ ในการทำสำนวนสืบสวนสอบสวน ให้การช่วยเหลือคนบนเรือ ให้รับโทษน้อยลงหรือให้พ้นผิด ถ้าไม่มี พล.ต.ต. คดีอาจจะไม่ใช่แบบนี้ ตอนรู้ด้วยว่าตำรวจคนไหนเป็นคนบงการให้คนบนเรือ แต่ขอยังไม่เปิดเผย หลักฐานที่ตนมียังเปิดไม่หมด รอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นคนทำ