"พระย้อย" งานเข้าหลุดภาพคู่สีกาหลังแฉ "กาโตะ" พบวีรกรรมเคยทำร้ายร่างกาย
"พระย้อย" งานเข้าหลุดภาพคู่สีกาในวัดชาวเน็ตนำภาพดังกล่าวแชร์ว่อนโซเชียลในขณะนี้ หลังออกมาแฉ "กาโตะ-ใบตอง" วีรกรรมไม่ธรรมดาเช่นกัน
จากกรณีของ อดีตหลวงพี่กาโตะ หรือ แรมโบ้ นายพงศกร จันทร์แก้ว วัย 23 ปี ที่ได้ออกมายอมรับในหลายๆ เรื่อง ทั้งเคยมีความสัมพันธ์ทที่สันเขื่อนกับ ใบตอง โยมสาววัย 37 ปีจริง อีกทั้งยังบอกอีกด้วยถึงเรื่องเงิน 6 เเสนบาทอีกด้วยว่า อดีตพระกาโตะ ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปเบิกเงินวัดจำนวน 6 แสนบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายให้กับคนกลาง เพื่อนำไปจ่ายให้กับคนที่เกี่ยวข้อง
และดูท่าจะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อ "พระธวัฒน์ จักกวโร" หรือ "พระย้อย" พระลูกวัดหน้าพระลาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ที่นำคลิปเสียง "กาโตะ" กับ "ใบตอง" ออกมาเปิดเผย ถูกสังคมออนไลน์นำภาพถ่ายในอดีตออกมาโจมตี พร้อมกับมีการขุดคุ้ยประวัติของพระย้อย และนำภาพพระย้อยกับสีกาคนหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่าเป็นภรรยาพระย้อยที่ถูกต้องตามกฎหมาย ออกมาเผยแพร่โดยเป็นภาพเซลฟี่ ขณะที่สีกานั่งแต่งหน้าอยู่หน้าห้อง โดยชาวเน็ตนำภาพดังกล่าวออกมาแชร์ว่อนโซเชียลในขณะนี้
-"ทนายเดชา" เปิดกฎหมายชัดๆซัดแหลก "กาโตะ" อาจถึงขั้นติดคุกตลอดชีวิต
-หมอดังถอดรหัสภาษากาย "กาโตะ" เตือนถอยห่างไว้ก่อน
-"โฟกัส" ถึงกับเอามือทาบอก "อดีตพระกาโตะ" ทำเรื่องฉาวแต่สาวกกลับให้กำลังใจ
ล่าสุด ภารโรงในโรงเรียนที่ "ภรรยาของพระย้อย" เคยทำงานอายุ 55 ปี ในพื้นที่ อ.ฉวาง เปิดเผยกับรายการทุบโต๊ะข่าว ระบุว่า ก่อนหน้านี้หลวงพี่ย้อยเคยบวชเณรที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนครฯ ทำให้มีหลายคนเรียกท่านว่า น้องเณร ในขณะนั้นน้องเณรก็ได้มีการคบหากับสีกา คือภรรยาในปัจจุบันที่ทำอาชีพครู เหมือนกับว่าก่อนหน้านี้น้องเณรจะเคยมีภรรยามาก่อนหน้าเเล้ว 1 คน ไม่แน่ใจว่าเลิกราหรือภรรยาจากไป จึงได้มาคบหากับครูคนนี้
ก่อนหน้าที่จะบวชหลวงพี่ย้อยเคยเป็นตำรวจอาสาในเมืองนครฯ มาก่อน จากนั้น ทั้งคู่ก็มีการเเต่งงานกัน และตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน แต่ก็ต้องเสียบุตรไปไป หลังจากนั้นภรรยาย้ายมาอยู่ที่ อ.ฉวาง ก็ย้ายมาด้วย แต่มาอ้างกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าตัวเองเป็นตำรวจ ชอบเข้าหาพวกผู้ต้องหา เป็นสายสืบให้ตำรวจ เรื่องนี้ชาวบ้านมาจับพิรุธได้ภายหลัง แต่ไม่มีการร้องเรียน
ทั้งนี้ ตอนที่ทั้งคู่ย้ายมาอยู่ที่ อ.ฉวาง ฝ่ายหญิงได้สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ฝ่ายชายมีการบุกเข้าไปหาฝ่ายหญิงที่โรงเรียน เพื่อที่จะทำร้ายร่างกาย มีการบีบคอ ล็อกคอ จนฝ่ายหญิงวิ่งลงมาด้านล่างขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นครูเวรจึงได้โทรแจ้งความ หลังจากนั้นฝ่ายชายก็มีการพาฝ่ายหญิงกลับบ้าน ล็อกกุญแจมือขังไว้ในห้องเช่า จนกระทั่ง ผอ.โรงเรียน สั่งให้ตนและอาจารย์อีกคนไปติดต่อตำรวจที่โรงพัก ก่อนจะเดินทางมาที่บ้านเช่า เอาตัวฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงออกมา เคลียร์กันที่โรงพัก
ผลคือฝ่ายหญิงของแยกทาง ฝ่ายชายร้องไห้กลางโรงพัก ลักษณะเดียวกับตอนที่เจ้าอาวาสวัดหน้าพระลานไล่ออกจากวัด เมื่อฝ่ายหญิงประกาศเช่นนี้ ฝ่ายชายก็มีการตามตื๊อ ตนและผอ.โรงเรียน สงสารให้การช่วยเหลือ ช่วงระยะเวลาหนึ่งตนเคยได้ขับรถไปรับไปส่งครูบีจากบ้านญาติในตลาดจันดีมาโรงเรียนเพื่อทำงานนาน 3 เดือน ช่วงนั้นน้องเณรไม่กล้าเข้ามายุ่งกับฝ่ายหญิง ส่วนฝ่ายหญิงก็ยืนยันกับตนว่าจะไม่กลับไปหาฝ่ายชายอีก