"ต่อย ดายศ" พี่ชายแตงโม นิดา เผยคำสอน "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า"
"ต่อย" ดายศ เดชจบ พี่ชาย "แตงโม นิดา" เผยคำสอน ศาสตราจารย์ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ เรื่อง "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า"
ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ "ต่อย ดายศ" พี่ชายของ "แตงโม นิดา" ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ก ถึงคำสอนของศาสตราจารย์ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ เรื่อง "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า"
โดยระบุว่า คอลัมน์ : "ส ด แ ต่ เ ช้ า" ปี 2 (34)
โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า
"อย่าให้จิตใจของเจ้าโกรธเร็ว
เพราะความโกรธฝังอยู่ในทรวงอกของคนเขลา"
ปัญญาจารย์ 7:9 THSV11
"Don't be too quick to get angry
because anger lives in the fool's heart."
Ecclesiastes 7:9 CEB
"มีเรื่องเล่าว่า"....
"ในขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังขับรถไปตามถนน ก็พอดีมีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถสวนมา ในจังหวะที่รถสวนกันนั้นเอง หญิงสาวผู้นั้น ก็เปิดกระจกรถแล้วตะโกนใส่เขาว่า "ควายยยยย!!"
ชายคนนั้นรู้สึกฉุนจัด เขาจึงเปิดกระจกแล้วหันหลังมองไปยังรถของหญิงสาวที่เพิ่งขับผ่านไป แล้วตะโกนด่าสวนกลับไปว่า "อีบ้าาาา!!" และ นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้ ก่อนสติของเขาจะดับวูบไป..."เกิดอะไรขึ้นกับผม?"
ชายหนุ่มคนดังกล่าวถามพยาบาลที่เขาพบ
เมื่อเขากลับคืนสติขึ้นมา
พยาบาลตอบเขาว่า
"...คุณขับรถชนควายบนถนนค่ะ!"
พี่น้องที่รัก สิ่งที่เราพึงตระหนัก และ สังวรไว้เสมอ ก็คือ
1. เราควรมี "ความอดกลั้น" ที่รู้จักควบคุม อารมณ์ของตน อยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อารมณ์โกรธมิฉะนั้น มันจะนำภัยมาสู่ตัวเอง หรือ ผู้อื่นโดยไม่จำเป็น!
"ความอดกลั้น" เป็นคุณลักษณะสำคัญต่อชีวิตที่เราต้องมีติดตัว
เพราะ "ความอดกลั้น" คือ "การระงับอารมณ์ , ข่มอารมณ์ หรือ ระงับใจ!" พระวจนะของพระเจ้า จึงเตือนเราว่า อย่าปล่อยให้ใจของเราโกรธเร็วเราจึงต้องรับผิดชอบควบคุม "ความโกรธ" ที่เป็นเปรียบเหมือนอสุรกาย หรือ เสือร้าย ที่ถูกขังไว้อยู่ในใจของเราเราต้องไม่ปล่อยให้มันออกมาเพ่นพ่าน ทำร้ายผู้ใด รวมทั้งตัวของเราเอง!
2. เราต้องมีความอดทน อยู่ในชีวิต
"ความอดทน" หมายถึง "การรักษาปกติภาวะของตนไว้ได้ ไม่ว่าจะถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งอันเป็นที่พึง ปรารถนาหรือไม่ก็ตาม ด้วยความมั่นคงหนักแน่น"
ในภาษาอังกฤษ ใช้ว่าว่า Patience ที่หมายความถึง
"สมรรถนะ หรือ ความสามารถในการรับหรือทนได้กับความล่าช้า ความยุ่งยาก หรือความทุกข์เจ็บปวด โดยปราศจากอาการโกรธ หรือหัวเสีย"
(the capacity to accept or tolerate delay, trouble, or suffering without getting angry or upset.)
บางทีภาษาไทย ก็ใช้คำว่า "ขันติ" หมายความถึง
1. "ความอดกลั้น" ต่อสิ่งที่ไม่พอใจ รวมทั้งความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น และ
2. "ความอดทน" ต่อสิ่งต่างๆโดยไม่หวั่นไหว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ดีงาม
เราจึงควรมีความอดทนและความอดกลั้นทั้ง
1. ทางกาย
1). อดทนต่อสภาพของปัจจัยความร้อนหรือความเย็น
2). อดทนต่อความทุกขเวทนาของร่างกายเมื่อเจ็บป่วย
2. ทางวาจา
1). อดทนต่อคำดูหมิ่น
2). อดทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์
3). อดทนต่อคำกล่าวหา หรือตัดสิน
3. ทางใจ
1). อดทนต่อความโลภ
2). อดทนความโกรธ
3). อดทนต่อความหลง
บางคนก็แยกแยะความแตกต่างระหว่าง ความอดทน กับ ความอดกลั้น ไว้ว่า
1. ความอดทน หมายถึง การระงับอารมณ์ และความรู้สึกที่มีต่อผลจากปัจจัยภายนอกหรือภายใน ด้วยจิตที่เข้มแข็ง
2. ความอดกลั้น หมายถึง การระงับหรือการควบคุมกิริยาหรือการกระทำอันมาจากปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยภายในที่มากระตุ้นอารมณ์ และความรู้สึก
แล้ววันนี้ คุณมีความอดทน และความอดกลั้น ที่กล่าวมาแล้วหรือไม่?
1. คุณกำลังเป็นคนมีปัญญาที่สามารถควบคุม
1). อารมณ์
2). ความรู้สึก
3). วาจา ทั้งทางการพูด หรือการโพสต์
4). กิริยาท่าทาง
5). การกระทำหรือพฤติกรรม ต่างๆ ของคุณ หรือว่า
2. คุณกำลังเป็นคนโง่เขลา ที่ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อารมณ์โกรธ ควบคุมชีวิตคุณอยู่ในเวลานี้?
จงระวัง อารมณ์โกรธของคุณ จะนำการวิวาท การทำร้าย และการทำลายล้างกันมาสู่กันและกัน
เราต้องควบคุมมัน และระงับไม่ให้เกิดหายนภัยขึ้นมาได้
ดังคำเตือนที่ว่า
"คนอารมณ์ร้อนเร้าให้เกิดการวิวาท
แต่คนที่โกรธช้าก็ระงับการพิพาท"
สุภาษิต 15:18 THSV11
คำเตือนสติที่ว่า
# "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า!"
ยังจำเป็นสำหรับคุณอยู่หรือไม่?
...ช่วยตอบที!
....................................
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
5 พฤษภาคม 2022