งานเข้า! สาวขึ้นป้ายไวนิลทวงหนี้เพื่อน ล่าสุดโดนแจ้งความ
งานเข้า! สาวขึ้นป้ายไวนิลทวงหนี้เพื่อน ยืมเงินแล้วไม่คืน ทั้งที่ในโซเชียลโชว์ชีวิตดี กิน เที่ยวหรู ล่าสุดโดนแจ้งความกลับ
เป็นประเด็นที่กำลังพูดถึงในโลกออนไลน์จากเหตุการณ์ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Chattreemat Photha ว่าตนเองนั้นทนไม่ไหวกับเพื่อนของตนเองที่ยืมเงินแล้วไม่คืน จึงตัดสินใจขึ้นป้ายไวนิลทวงเงินจะได้สำนึกและคืนเงินสักที
โดยข้อความในป้ายระบุว่า "ประจานคนโกง ใช้ชีวิตดีแต่หนี้ไม่ใช้ ยอดหนี้ 10,700" ซึ่ง น.ส.ฉัตรตรีมาศ เจ้าของโพสต์ได้เปิดใจว่า หญิงสาวที่ปรากฏในป้ายไวนิล เป็นเพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนและเพื่อนรวมสายงานพริตตี้มากว่า 6 ปี ก่อนหน้านี้ตนได้เปิดวงแชร์กันในกลุ่มเพื่อน ยอดเงินประมาณ 50,000 บาท แบ่งจ่ายทุก 20 วัน งวดละ 2,800 บาท แรกๆ ฟ้าก็จ่ายตรงเวลา กระทั่งมาช่วงหลังเริ่มบ่ายเบี่ยงผัดผ่อน จนมียอดหนี้ 10,700 บาท ตนพยายามโทรศัพท์ และทักไปทางข้อความ เพื่อทวงถามก็อ่านแต่ไม่ตอบ
คนรู้จักหลายคนที่รู้เรื่อง ต่างก็มาพูดให้ฟังว่า เห็นเพื่อนเธอโพสต์ในเฟซบุ๊ก กิน เที่ยว มีชีวิตที่ดี กินหรูอยู่แพง มีเงินซื้อของ ผ่อนรถ ต่อขนตา แต่ทำไมไม่มีเงินจ่ายหนี้ ตนได้ติดตามไปทวงเงินถึงบ้าน แต่ก็ไม่เจอตัว พบเพียงแม่ของเพื่อน ซึ่งก็ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นจึงตัดสินใจสั่งทำป้ายไวนิล และใบปลิว อีกจำนวน 100 แผ่น นำไปติดที่บริเวณตลาด และปากทางเข้าบ้านของฟ้า แม้รู้ว่าสุ่มเสี่ยงที่อาจจะถูกฟ้องกลับ แต่ก็ตัดสินใจทำ เนื่องจากทนพฤติกรรมของเพื่อนไม่ไหวและอยากให้มีสำนึก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15.00 น. น.ส.สุนิสา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ประสิทธิ์ ชนประเสริฐ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง เพื่อแจ้งความ ซึ่งมีหลักฐานเป็นป้ายไวนิล ใบปลิว รวมไปถึงหลักฐานการพูดคุย และสลิปการชำระหนี้ โดย น.ส.สุนิสา เผยว่า
ตนมีอาชีพเป็นพริตตี้ ตนได้เริ่มเข้าร่วมวงแชร์ ที่มี น.ส.พลอยเป็นท้าวแชร์ เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2564 กระทั่งช่วงหลังที่ CV19 มีการแพร่กระจายหนักส่งผลให้ตนไม่มีงาน จึงขาดส่งเงินตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่าน รวม 4 งวด เป็นเงิน 11,200 บาท จากนั้น น.ส.พลอยได้ทวงถาม ตนจึงได้โอนเงินไปให้ก่อนจำนวน 500 บาท พร้อมทั้งรับปากว่าจะทยอยจ่ายหนี้ทั้งหมดให้ แต่ขอเวลาหน่อย เนื่องจากประสบเหตุ และพึ่งเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ จากนั้นในวันที่ 28 เมษายน 2565 ตนยังได้โอนเงินอีก 1,000 บาท ยอดหนี้จึงเหลือเพียง 9,700 บาท ทั้งนี้เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้หนีหนี้ กระทั่งวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่าน น.ส.พลอยก็ได้ติดป้าย
ในวันนี้ตนจึงจำเป็นต้องเข้ามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และความผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะได้ทำการรวบรวมหลักฐาน แล้วเชิญตัว น.ส.พลอยมาให้ปากคำ ก่อนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป โดยสุดท้ายคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายว่า หลังจากนี้จะสามารถกลับมาพูดคุยเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่ ซึ่งทั้งคู่ให้คำตอบเดียวกันว่า จะไม่กลับไปเป็นเพื่อนกันอีกต่อไป