เปิด 3 อาการ "ลองโควิด" ที่พบมากสุด หากมีอาการควรปรึกษาแพทย์
เปิด 3 อาการ "ลองโควิด" พบมากที่สุดจากผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 ที่พบกว่า 200 อาการ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้แม้กับผู้ที่มีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย
หลักฐานปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าร้อยละ 10-20 ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 จะประสบกับ “กลุ่มอาการหลังโควิด 19” หรือที่เรียกว่า “ลองโควิด” อันประกอบด้วยอาการเรื้อรังมากมาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้แม้กับผู้ที่มีอาการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เรามีในขณะนี้แสดงให้เห็นว่าอาการลองโควิดมีความสัมพันธ์กับอาการป่วยที่รุนแรงจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
โดยทั่วไป อาการลองโควิดจะเริ่มขึ้นหลังจากที่ผู้ป่วยเริ่มฟื้นตัวจากการติดเชื้อโควิด 19 แบบรุนแรงเฉียบพลัน แต่ก็สามารถเกิดขึ้นในลักษณะที่ต่อเนื่องจากอาการป่วยที่มีมาแต่ต้นได้ด้วย อาการลองโควิดเกิดขึ้นและหายไปตามกาลเวลา และในบรรดาอาการที่พบกว่า 200 อาการ 3 อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ หายใจไม่อิ่ม สมองล้า และอ่อนเพลีย
3 เดือนหลังจากที่คุณได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด 19 แบบรุนแรงเฉียบพลัน หากคุณยังหายใจลำบาก สมองล้า หรืออ่อนเพลีย คุณอาจจะกำลังประสบกับอาการลองโควิดและควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญแม้คุณจะรู้สึกว่ารับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นอาจมีสาเหตุมาจากความเจ็บป่วยอื่น ๆ ซึ่งต้องได้รับการรักษาที่ต่างออกไป
-เปิดอาการ ที่บ่งชี้ว่าเสี่ยงเป็น "ภาวะลองโควิด" รีบสังเกตุตัวเองด่วน
-เช็ครายละเอียด ก่อนสธ. เตรียมปรับลดเตือนภัยโควิด ระดับ 2 ปลายเดือนนี้
-ผู้ประกันตน ป่วยโควิดอาการไม่รุนแรง รับยา-รักษาฟรีไม่ต้องสำรองจ่าย
เรายังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับอาการทั้งหมดและระยะเวลาของลองโควิด หลักฐานปัจจุบันบ่งชี้ว่าลองโควิดอาจกินเวลาอย่างน้อย 2 เดือน แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการนานถึง 6 เดือน 1 ปี หรือนานกว่านั้น นอกจากนี้เรายังพบความผิดปกติของปอด อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย ลิ่มเลือด และการเสียชีวิต ในระยะเวลา 1 ปีหลังจากเริ่มมีอาการ
เนื่องจากลองโควิดเป็นกลุ่มอาการที่กว้างมากและกระทบกับหลายระบบในร่างกาย เราจึงไม่มียาหรือวิธีรักษาเฉพาะ หากอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองเพื่อยกระดับสุขภาวะของตนได้ เช่น ลดกิจกรรมเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าหรือหายใจไม่อิ่ม และหากมีปัญหาด้านการควบคุมสมาธิ ให้ค่อย ๆ จดจ่อกับงานทีละชิ้น ถ้าหากอาการเหล่านี้กระทบต่อชีวิตของคุณอย่างมาก หรือหนักขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไป องค์การอนามัยโลกแนะนำให้พบแพทย์ ซึ่งอาจแนะนำให้คุณเข้ารับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ