"หนุ่ม กรรชัย" รับเหนื่อยกาย แต่ไม่ท้อ พร้อมตอบแล้วจะเลิกทำรายการไหม
"หนุ่ม กรรชัย" ตอบแล้วจะเลิกทำรายการไหม หลังตัดพ้อกลางรายการ รับเหนื่อยกาย แต่ไม่ท้อ ขอโทษที่ตามใจทุกคนไม่ได้
จากประเด็นของ "หมอปลา มือปราบสัมภเวสี" บุกวัดของ "หลวงปู่แสง" ทำให้มีเรื่องราวการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นมากมาย ต่อมาทาง "หนุ่ม กรรชัย" ก็ได้ชี้แจงผ่านทางโหนกระแส หลังถูกตั้งคำถามทำไมไม่เอาหมอปลามาออก เพราะเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า ทาง หนุ่ม กรรชัย จึงเผยว่า ได้พยายามติดต่อทางหมอปลาแล้ว แต่ทางหมอปลาแจ้งกลับมาว่าไม่สะดวกจะออกรายการ และไม่สะดวกโฟนอิน แต่จะพยายามติดต่อหมอปลาให้มาร่วมรายการต่อไป ถ้าหมอปลามา ตนจะเป็นตัวแทนในการถามทุกคำถามที่สังคม และยังเผยอีกว่า ถ้าตนเองเป็นผู้วิเศษ ก็อยากจะทำตามใจทุกคน
ล่าสุดทาง "หนุ่ม กรรชัย" ก็ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้งว่าวันนึงที่เราพอมาอยู่จุดนี้แล้ว เป็นจุดที่เราเองก็ไม่เคยคาดฝันเช่นกัน ถามว่าเรารู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมาอยู่จุดไหน มันมีความคาดหวังจากหลายๆ คน อยากให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ จริงๆ เราอยากทำให้ทุกคน ถ้าวันนี้ผมเป็นผู้วิเศษ ผมก็อยากจะดีดนิ้วแล้วก็เนรมิตในสิ่งที่หลายๆ คนต้องการ แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถทำแบบนั้นให้กับทุกคนได้
ปัจจุบันนี้ทุกเรื่องมันถูกมองเป็น 2 มุมเสมอ และแน่นอนเมื่อเราอยู่ตรงกลาง ต่างฝ่ายต่างก็อยากให้เราทำแบบที่เขาต้องการ มันเกิดความคาดหวัง แต่ผมไม่เคยมองมุมลบนะ ผมมอมมุมบวกเสมอ เราเข้าใจว่าเขาคาดหวังกับเรา แต่เราอาจจะผิดเองที่ทำให้เขาไม่ได้ ทุกคนอยากเป็นที่รัก เราก็เช่นกัน แต่ความจริงมันไม่สามารถจะทำให้ทุกคนมารักราได้ทั้งหมด ถ้ามีคน 100 คน อาจจะรักเรา 5 คน แค่นั้นก็พอแล้ว เราคงจะให้เขามารักเราทั้งหมดไม่ได้ บางอย่างผมก็ต้องกราบขออภัยจริงๆ เราพยายามสุดความสามารถของเราแล้ว ถ้าอันไหนทำให้ไม่ถูกใจผมต้องขอโทษจริงๆ
ถามว่าท้อไหม ไม่ได้ท้อนะ เพราะเราเลือกที่จะมาอยู่ตรงนี้แล้ว แต่เหนื่อย ไม่ได้เหนื่อยกับการถูกด่า เราไม่ใช่น้ำเต็มแก้ว เรารับฟังได้ เราเข้าใจความรู้สึกของทุกคน ผมว่าผมแข็งแรงพอที่จะต้อนรับคำด่าของคน แต่เราเหนื่อยทางร่างกายมากกว่า และพอเราไม่สามารถทำตามความคาดหวังของหลายๆ คนได้ในบางเรื่อง เรายิ่งเหนื่อยเข้าไปอีก เพราะเราพยายามแล้ว
ส่วนเรื่องที่บอกว่าอยากเลิกทำโหนกระแส เรายังไม่คิดจะเลิก ถามว่าเหนื่อยไหมก็เหนื่อยแต่ก็ยังต้องทำต่อไปอยู่ เราอยากทำงานตรงนี้ไปเรื่อยๆ แต่วันหนึ่งก็คงต้องหยุดเมื่อถึงเวลา ตอนนี้ไม่ถือว่าเราสูญเสียความเป็นตัวตน แต่เราแค่พยายามหาวิธีปรับตัว จากคำพูดหรือคำวิจารณ์ของคนอื่นๆ และไม่ทำอีกในครั้งหน้า เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครดี 100 % มันก็อาจจะมีพลาดบ้าง เผลอบ้าง เพียงแต่ว่าเราต้องกลับมาให้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง เรามองว่าทุกคนมีมุมมองของตัวเอง ไม่ผิดถ้าเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็น เราเลือกที่จะมาอยู่จุดนี้แล้ว ก็ต้องรับฟัง ถ้าเราผิดก็ขอโทษ และปรับปรุง เชื่อว่าสังคมก็พร้อมที่จะให้อภัย