สธ.ตอบชัดแล้ว "ถอดแมสก์" ได้หรือยัง หลังจ่อประกาศให้โควิด เป็นโรคประจำถิ่น

 จากกรณีสถานการณ์โควิดในไทยล่าสุด ดูเหมือนว่าจะทุเลาเบาบางลงไปมากแล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่เพราะ โควิดมันร้ายกว่าที่คิด แต่ ณ ปัจจุบันยอดตัวเลขโควิดในไทยล่าสุด (31 พ.ค.65) นั้นดูท่าว่าจะดูดีขึ้นมาหน่อยที่ 3,955 ราย เสียชีวิต 21 ราย รักษาหายแล้ว 6,607 ราย ซึ่งวันนี้จะเป็นการรายงานผลในลักษณะเช่นนี้วันสุดท้าย 

จากตัวเลขดังกล่าวทำให้คนไทยแอบลุ้นว่า จะมีมาตรการผ่อนคลายใดๆ ขึ้นมาอีกบ้าง ซึ่งอย่างหนึ่งที่หลายคนรอให้กลับมาเป็นปกติมาที่สุดก็คือ การให้ ถอดแมสก์ หรือ หน้ากากอนามัยและใช้ชีวิตตามปกติได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมประกาศให้โรคโควิด เป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นี้ อีกทั้งทางยังได้ สธ.ระบุว่าเตรียมนำร่อง 31 จังหวัด พื้นที่สีเขียว และ พื้นที่สีฟ้า ถอดแมสก์วันไหน

การ ถอดแมสก์ หรือ ถอดหน้ากากอนามัย และใช้ชีวิตตามปกตินั้น ซึ่งจะนำร่องบางพื้นที่ช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายน แต่ก็มีผู้ที่จำเป็นต้องสวมหน้ากากฯใน 3 กรณี คือ
1.กลุ่มผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง 608
2.อยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
3.กิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก


-ราชกิจจาฯ เผย "ยกเว้นภาษีเงินได้" เงินสนับสนุนโครงการรัฐที่เกี่ยวกับโควิด
-หมอยง เผยข้อมูล "ฝีดาษลิง" ไม่ใช่โรคใหม่ ติดต่อได้ยากกว่า โควิด - ไข้ทรพิษ
-"หมอธีระวัฒน์" เผย ความแปลกของ "ฝีดาษลิง" ในยุคปลายโควิด

โดยก่อนหน้านี้ ศบค.มีการปรับพื้นที่โซนสีซึ่งจะเริ่มมีผลวันที่ 1 มิถุนายน 2565 และมีกระแสข่าวว่าเตรียมผ่อนคลายให้ประชาชนเริ่ม "ถอดแมสก์" ได้ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นพื้นที่นำร่อง 31 จังหวัดใน พื้นที่สีฟ้า และ พื้นที่สีเขียว ดังนี้ ถอดแมสจังหวัดไหนบ้าง

- พื้นที่สีฟ้า ได่แก่ กทม. กระบี่ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา
- พื้นที่สีเขียว ได้แก่ ชัยนาท พิจิตร อ่างทอง น่าน มหาสารคาม ยโสธร นครพนม ลำปาง อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ ตราด สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อุดรธานี

 

สำหรับ ประเด็นผ่อนคลายถอดแมสก์อัพเดตล่าสุด พบว่า นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ถอดแมสก์ หรือ หน้ากากอนามัย ซึ่ง นายธนกร ระบุว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ย้ำเรื่องนี้บอกว่า รัฐบาลยังไม่มีนโยบายให้ ถอดแมสก์ หรือให้ถอดหน้ากากอนามัย ซึ่งให้เหตุผลว่า ยังเป็นพฤติกรรมที่สำคัญและจำเป็นอยู่

 
อีกทั้งนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังกำชับให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ติดตามการแพร่ระบาดของโรค "ฝีดาษลิง" และเตือนให้ประชาชนทราบถึงวิธีการป้องกัน แนวทางการรักษาโรค แม้ว่าล่าสุดยังไม่พบการระบาดของฝีดาษลิงในประเทศไทยก็ตาม

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้พูดถึงประเด็น ถอดแมสก์ เช่นกัน ซึ่ง รมว.สธ. ระบุว่า แม้ต่อไปโรคโควิด จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่การใส่แมสก์นั้น หากไม่จำเป็นก็ยังไม่ต้องถอดหน้ากากอนามัย ต่อให้ไม่มีโรคโควิดก็สามารถใส่หน้ากากอนามันได้ในที่ชุมชนที่มีการรวมกลุ่มของคนหมู่มาก 

"การใส่หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่ดี ประเด็นเรื่องการใส่หรือถอดหน้ากากอนามัย เราสามารถประเมินเอาได้ หากคนเยอะก็ควรใส่ แต่ถ้าคนน้อยไม่แออัดหรือแต่ละคนเป็นคนใกล้ชิดเราก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ ซึ่งประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงต่างๆ ได้" นายอนุทิน ชาญวีรกูล ระบุ