ผุดแคมเปญล่ารายชื่อถอดใบอนุญาต "ทนายเดชา" เซ่นปมคดีเเตงโม
ผุดแคมเปญ โซเชียลล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org ถอดถอนใบอนุญาตของ "ทนายเดชา" ออกจากอาชีพทนายความ ในคดีเเตงโม นิดา
จากกรณีที่ Change.org ได้มีการเปิดแคมเปญรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ ในหัวข้อเรื่อง “รวบรวมรายชื่อ ยื่นถอดถอน ใบอนุญาต ทนายความ” ซึ่งก็มีผู้คนให้ความสนใจมาร่วมลงชื่อ หวังกดดันถอดถอนใบอนุญาตของ "ทนายเดชา" ออกจากอาชีพทนายความ ล่ารายชื่อทนายเดชาถอดอาชีพทนายความ
เรื่อง
ยื่นถอดถอนใบอนุญาติทนายความ ว่าด้วยเรื่องมารยาททนายความ
ยื่นสอบทนายเดชา
ผิดหมวด3
ข้อ 10(3)
ข้อ14
หมวด ๔
มรรยาทต่อทนายความด้วยกัน ต่อประชาชนผู้มีอรรถคดีและอื่นๆ
ข้อ16(2)
ข้อ ๑๐ใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ใดมอบคดีให้ว่าต่างหรือแก้ต่าง
(๓) อวดอ้างว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำ ให้เขาหลงว่า ตนสามารถจะทำให้
เขาได้รับ ผลเป็นพิเศษ นอกจากทางว่า ความ หรือหลอกลวงว่า จะชักนำ จูงใจให้ผู้ นั้นช่วยเหลือคดีในทางใดๆ ได้
หรือแอบอ้างขู่ว่า ถ้าไม่ให้ตนว่า คดีนั้นแล้วจะหาหนทางให้ผู้นั้นกระทำให้คดีของเขาเป็นแพ้
ข้อ ๑๔ ได้รับเป็นทนายความแล้ว ภายหลังใช้อุบายด้วยประการใด ๆ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เพื่อจะให้
ตนได้รับประโยชน์ นอกเหนือจากที่ลูกความได้ตกลงสัญญาให้
หมวด ๔
มรรยาทต่อทนายความด้วยกัน ต่อประชาชนผู้มีอรรถคดีและอื่นๆ
ข้อ ๑๖แย่ง หรือทำ การใดในลักษณะประมูลคดีที่มีทนายความอื่นว่าต่างแก้อยู่แล้วมาว่า หรือรับ หรือสัญญาว่า
จะรับว่าต่างแก้ต่างอยู่แล้วมาว่า หรือรับ หรือสัญญาว่า จะรับว่า ต่างแก้ต่างในคดีที่รู้ว่า มีทนายความอื่นว่า อยู่แล้ว
เว้นแต่
(๒) มีเหตุผลอันควรเชื่อว่า ตัวความได้ถอนทนายความคนก่อนจากการเป็นทนายความของเขาแล้ว หรือ
-"บุญถาวร" ที่ปรึกษา "ส.ส.เต้ " ประกาศขอยุติบทบาทตัวเองในคดีแตงโมแล้ว
-เต้ มงคลกิตติ์ เผยความรู้สึกหลังถูก เสรีพิศุทธ์ กล่าวหามีพฤติกรรม!
-บังแจ็ค แฉอีก เสียงแตงโม พูด "ไม่อยากอยู่ อยากกลับแล้ว" ยัน ไม่ได้อยู่บนเรือ!
โดยเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.65 ทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยถึงกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ ส.ส.เต้ โพสต์เฟซบุ๊กว่าเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคือนายเดชา ที่ สน.บางโพในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ 3 ข้อหาคือ ตามมาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา , มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และ มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และผิดมรรยาททนายความ กรณีที่นายเดชาไปร้องเรียนกับ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรแล้วมีการให้สัมภาษณ์ พูดในลักษณะว่า ส.ส.เต้ จะเป็นศพ พร้อมฌาปณกิจ ว่าเป็นการข่มขู่นั้น
นายเดชา เปิดเผยว่า หาก ส.ส.เค้ไปแจ้งคงามดำเนินคดีตนจากกรณีดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการแจ้งความเท็จเป็นถือ ส.ส.แต่มีพฤติกรรมรังแกประชาชน ซึ่งการพูดในลักษณะนั้น เป็นการพูดเปรียบเปรยว่า การร้องเรียนดังกล่าว หากส่งผลให้ ส.ส.เต้ พ้นจากความเป็น ส.ส.เนื่องจากผิดจริยธรรม ก็เปรียบเสมือนเป็นการประหารชีวิตทางการเมือง ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ตามที่ ส.ส.เต้ เข้าใจ ซึ่งหากสสเต้แจ้งความดำเนินคดี ตนเองกจะฟ้องกลับเล่นกัน เพราะถือเป็นการแจ้งความเท็จ ยืนยันจะฟ้องสวนกลับทุกคดีที่ ส.ส.เต้ แจ้งดำเนินคดีกับตน และจะเอาเรืรองให้ถึงที่สุด ให้ ส.ส.เต้ พ้นสภาพความเป็น ส.ส.ให้ได้
ส่วนการ วิพากษ์วิจารณ์ ส.ส.เต้ ยืนยันว่า ประชาชนทั่วไปสามารถทำได้ เพราะถือเป็นบุคคลสาธารณะ และเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ด้านกรณีที่ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา จะเปิดภาพบาดแผลที่ศพของแตงโม นิดา ในการแถลงข่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เหมือนเป็นการทำร้ายผู้เสียชีวิตซ้ำสอง อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 366/4 ดูหมิ่นเหยียดหยามศพหรือไม่
และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำภาพอันไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คดีแตงโม นิดา ถือว่าจบแล้วในขั้นสอบสวน อยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งฟ้องจากพนักงานอัยการ จึงมีความเป็นห่วงนางภนิดามากยิ่งขึ้น เพราะการฟ้องร้องคดีเจตนาฆ่าผู้อื่นเป็นคดีใหม่ ก็จะไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมคดีกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้ คดีแรกไม่ได้ และหากคดีแรกศาลพิพากษาตัดสินไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็ฟ้องร้องคดีที่ 2 ก็จะต้องยุติทันที อีกทั้งนางภนิดาก็ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ในคดีแรกได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นโจทก์ร่วม ทำให้เสียประโยชน์ทางคดีได้
ส่วนคดีกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่อัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ หากอัยการสั่งฟ้องคดีถือว่าเป็นการรับรองว่าการสอบสวนของพนักงานสอบสวนชอบด้วยกฎหมาย จากนั้นกลุ่มบุคคลที่เคยกล่าวหา หรือให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่ส พนักงานสอบสวนว่าทำคดีบกพร่อง มิชอบด้วยกฎหมาย หรือ กล่าวหาผู้ต้องหาคนบนเรือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม จะถูกผู้ที่ถูกกล่าวหาดำเนินคดีกลับอย่างแน่นอน