"ทนายรณณรงค์" ตอบชัดเจนทำไม "อดีตผกก.โจ้" ถึงไม่โดนประหารชีวิต
"ทนายรณณรงค์" ได้ออกมาเคลื่อนไหวให้ความรู้ หลังศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
จากกรณีที่ศาลตัดสินโทษ ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำ ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต อีกหนึ่งคดีที่ประชาชนต่างจับตาบทสรุป สำหรับคดี ผู้กำกับโจ้ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ซึ่งล่าสุดศาลได้ตัดสิน ผกก.โจ้ ออกมาแล้ว
ล่าสุด ศาลพิพากษาตัดสิน ประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงดำคลุมศรีษะ ผู้ต้องหายาเสพติดจนถึงแก่ความตาย เเต่มีเหตุบรรเทาโทษ เยียวยาผู้เสียหาย จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1, 2, 3, 4 ,5 และ 7 จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 6 ลงโทษ 5 ปี 4 เดือน จำคุกตลอดชีวิต 'ผกก.โจ้'
สำหรับพฤติกรรมตำรวจ จำเลย ทั้ง 7 ราย
จำเลย 1 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (โจ้) อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหา ทุบหลัง ตบหน้า ยันเข่า และสาดน้ำใส่ รวมถึงช่วยปั๊มหัวใจ
จำเลย 2 พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง (ต้น) อดีต สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ เข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหา หยิบผ้าเข้ามาในห้อง
จำเลย 3 ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค (ไก่) อดีตรองสวป.สภ.เมืองนครสวรรค์ หัวหน้าชุด เข้าไปล็อกขาของผู้ต้องหา และช่วยปั๊มหัวใจ
จำเลย 4 ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา (ต้อง) อดีตรองสว.(ป.)สภ.เมือง รองหัวหน้าชุด พยายามใส่กุญแจมือหยิบผ้าให้ผู้กำกับ หยิบกะละมังใส่น้ำ รวมถึงช่วยปั๊มหัวใจด้วย
จำเลย5 ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว (โบ้) อดีตผบ.หมู่ (ป.)สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด เข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหาและเป็นคนส่งถุงดำให้ผู้กำกับคลุมหัวผู้ต้องหา
จำเลย 6 ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น (เต้) อดีตผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ประจำชุด เป็นผู้สังเกตการณ์
จำเลย 7 ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาบัว (ต้อม) อดีตสภ.ตาคลี คนขับรถให้ ผกก. เป็นคนเข้าไปช่วยล็อกตัวผู้ต้องหาและช่วยปั๊มหัวใจ
-"ทนายตั้ม" โพสต์เรื่องเศร้า "คดีอดีตผกก.โจ้" ไม่กี่ปีก็ออกมาชิลบนถนน
-ศาลตัดสินประหารชีวิต "อดีตผกก.โจ้" แต่ได้ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
-พ่อมาวินเหยื่อ "อดีต ผกก.โจ้" เปิดใจล่าสุด ก่อนถึงนาทีฟังคำพิพากษา
โดยทั้งหมดถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ประกอบด้วย จำคุกตลอดชีวิต 'ผกก.โจ้'
- เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289(5), 309 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4, 172
ล่าสุด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
เคสผู้กำกับโจ้ที่ไม่ถูกประหารก็เป็นตามกฎหมายนะเพราะมีเหตุบรรเทาโทษจึงรอด แต่ในการที่กฎหมายเปิดช่องให้ข้าราชการกระทำผิดนอกกฎหมายจนประชาชนตายแล้วมีเหตุบรรเทาโทษอยากให้สภาผู้แทนราษฎรแก้กฎหมายข้อนี้
ขอบคุณ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์