พลเมืองดี เผย "เคนลี Take Me Out" ได้สติขอให้ลบคลิป ลั่น บอกแล้วตื่นมาจะอาย

 จากกรณีอนหน้านี้ โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปของผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงรายหนึ่งหลังเธอได้เก็บภาพนาที ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังทะเลาะกันรุนแรงที่คอนโด ซึ่งมีจังหวะหนึ่งที่ฝ่ายชายทำร้ายผู้หญิงจนสลบไป และมีพลเมืองดีที่อยู่บริเวณดังกล่าวเข้ามาช่วยแต่เรื่องราวกับตาลปัตรเพราะฝ่ายหญิงไม่เอาผิดฝ่ายชายและให้พลเมืองดีไปเคลียร์กับฝ่ายชายเองหลังเข้ามาช่วยเธอต่อมาทราบว่าฝ่ายชายคือ เคนลี Take Me Out กับแฟน

โดยในคลิปจะเห็น เคนลี กำลังทำเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือแฟนอยู่ ก่อนที่ทั้งคู่จะหายไปในพุ่มไม้ ตอนนั้นทางฝั่งลูกบ้านก็เข้าใจว่าอาจจะแค่ทะเลาะแล้วคืนดีกันไว แต่แล้วก็เห็นภาพชัดว่าแฟนของเคนลีเหมือนจะสลบ และทิ้งตัวลง ปล่อยให้เคนลีจิกผม ฉุดกระชากลากถูแฟนไปกับพื้น จึงมีการตะโกนให้ รปภ. มาช่วย 

จากนั้นลูกบ้านที่ถ่ายคลิปก็ลงมาช่วยผู้หญิงด้วยจากนั้นจึงเป็นเป็นคลิปของลูกบ้านผู้หญิงที่เข้าไปเจรจา บอกว่า ให้ทั้งเคนลีและแฟนแยกกันดีกว่า เมาทั้งคู่ อย่าคิดว่าเป็นแฟนแล้วจะทำผู้หญิงได้ แต่เคนลีกลับเข้าไปผลักผู้หญิงและบอกว่า "มาดิ" รปภ. ต้องเข้ามาห้าม และขู่จะใช้กระบองตีเคนลี 

ด้านลูกบ้านผู้หญิงทนไม่ไหวเลยเตะเคนลีเข้าไป 1 ป้าบ "...บอกเลย ...ทำร้ายผู้หญิง ...เห็น...ลากผู้หญิง ..ถ่ายคลิปไว้หมดแล้ว" ในขณะที่แฟนของเคนลีนั่งอยู่บนพื้นและร้องไห้ เสื้อถูกกระชากจนโป๊ เคนลี เทคมีเอาท์ทำร้ายแฟน

-"เคนลี Take Me Out" ทะเลาะแฟนสาวกลางคอนโด พลเมืองดีเข้าช่วยดันเจอเรื่องพีค
-เจ้าของหอกุมขมับ "สยองอาจารย์ ม.ดัง" ทิ้งขยะกองท่วมหัว
-เปิดคำทำนาย "อ๋อ ซียู" ทำนายอนาคตประเทศไทย 3 - 5 ปีต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร

ล่าสุด พลเมืองดีเจ้าของคลิปได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของเธออีกครั้งว่า "ล่าสุดโทรมาขอให้ลบคลิปที่ลงเพราะกลัวพ่อแม่เห็น ขนาดตัวเองยังไม่รักเลยก็ไม่แปลกเลยที่โดนแบบนี้ #บอกแล้วใช่มั้ยว่าตื่นมาจะอายนะ" ทั้งนี้ พบว่า แฟนสาวที่อยู่ในคลิปโดนทำร้าย ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเคลียร์ในคืนวันเกิดเหตุว่า จะไม่ขอไปแจ้งความ ถ้าจะแจ้งความจะไปในเวลาที่สะดวกเอง

ทั้งนี้ในคลิป จะมีช่วงตอนหนึ่งที่สาวพลเมืองดี ได้บอกให้ เคนลี เทคมีเอาท์ ว่า "กลับไปบ้านเถอะ แล้วอย่าเก๋าชีวิตพรุ่งนี้ตื่นมาจะอาย" ซึ่ง เคนลี ได้ตอบโต้กลับว่า "ไม่อาย ไม่ได้ไปแตะตัวฝ่ายหญิงสักนิด" ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายแฟนสาวก็ให้แฟนไปแจ้งความเอง  แน่นอนว่า เรื่องราวดังกล่าวยังเป็นที่พูดถึงอย่างดุเดือดของชาวเน็ต