อัจฉริยะ ผุดข้อมูลใหม่ ความสัมพันธ์ คุณแม่ภนิดา - แตงโม ใช่แม่ลูกกันจริงไหม?
อัจฉริยะ ลั่นมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ หลังพบหลักบางอย่าง แตงโมกับคุณแม่ภนิดาอาจไม่ใช่แม่ลูกกัน ก่อนตอบเพียงสั้นๆว่า“ไม่มีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก”
จากกรณี วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมทนาย ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ สน.พหลโยธิน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในคดีที่ตำรวจภูธร ภาค 1 แจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐาน "ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา" หลังจัดแถลงข่าวพาดพิงการทำงานของตำรวจในคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา หรือ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์
โดย นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้มาพบพนักงานสอบสวน ที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 แจ้งความตนจำนวน 2 คดี ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยยังไม่ทราบว่าแจ้งความตนจากเหตุไหน แต่มั่นใจว่าไม่ได้มีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิด วันนี้พนักงานสอบสวนคงแจ้งข้อกล่าวหาตนไม่ได้ ทำได้แค่แจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบแล้วให้กลับบ้าน ซึ่งตนจะไปพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ประชาชื่น ต่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาอีก 1 คดี
นายอัจฉริยะ ยังได้กล่าวถึงตำรวจว่า จากกรณีที่อธิบดีอัยการภาค 1 มีคำสั่งให้สอบเพิ่มมากกว่า 10 ประเด็นนั้น ตนรู้มาว่า ตอนนี้ตำรวจกำลังพยายามหาเรือสำรองมาใช้แทน เนื่องจากไม่กล้าให้ตรวจสอบเรือลำจริงเพราะกลัวจะเจอคราบเลือด และฝากถึงผู้ประกอบการด้านเรือว่า อย่าให้ความร่วมมือกับตำรวจเพราะจะโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดด้วย ซึ่งตำรวจทำอะไร ตนรู้หมด มีสายรายงานตลอด หากบริสุทธิ์ใจจริง ควรนำเรือลำจริงมาให้พิสูจน์หลักฐานตรวจ และคืนนี้ ตนจะไลฟ์สด เปิดเรื่องช่องลับบนเรือด้วย ซึ่งมีข้อเท็จจริงว่าเจ้าของอู่เรือเคยสาธิตเองว่าเรือลำนี้มีช่องลับอยู่ ซึ่งเชื่อว่า นี่ก็เป็นอีกประเด็นที่อธิบดีอัยการ ภาค 1 สั่งสอบเพิ่ม เพราะตนยื่นไปว่าให้ตรวจหาคราบเลือดบนเรือที่อยู่ด้านขวาซึ่งมีช่องลับอยู่
โดยนายอัจฉริยะ ยังได้เผยภาพหลักฐานอีก 2 ภาพ ที่ระบุว่าตำรวจมีการปลอมแปลงหลักฐาน โดยภาพแรก เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่สะพานซังฮี้ ในเวลา 22.18 น. ซึ่งเห็นเรือลำเกิดเหตุแล่นผ่าน แต่ข้อมูลจีพีเอสบอกว่า เวลาดังกล่าวเรือวิ่งอยู่ที่วัดจันทร์ จึงเป็นการแก้เวลา ส่วนอีกภาพ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ในเวลา 22.32.05 น. ซึ่งนายอัจฉริยะบอกว่า จากการวิเคราะห์แสงและเงา จะเห็นคนบนเรือเหลือเพียง 5 คนแล้ว ดังนั้น แตงโมจึงตกเรือไปก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่ตรงกับเวลาที่ตำรวจแถลงข่าวว่าแตงโมตกเรือตอน 22.34.10 น.
นายอัจฉริยะ ยังเปิดประเด็นใหม่ด้วยว่า บิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ตนกำลังพิสูจน์อยู่ คือพิสูจน์ความเป็นแม่ลูกกันของแตงโมกับคุณแม่ภนิดาเป็นแม่ลูกกันจริงหรือไหม เมื่อถามว่ามูลเหตุอะไรที่ทำให้สงสัยว่าแตงโมกับคุณแม่ภนิดาไม่ใช่แม่ลูกกัน นายอัจฉริยะ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่มีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก” โดยขอให้รอดู เพราะตนกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัดซึ่งเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์เรื่องดังกล่าว และไม่กลัวหน้าแตกเพราะตนแค่ตั้งข้อสงสัย ถ้าหากจริง เรื่องก็จบส่วนกรณีที่เคยไลฟ์สดระบุว่า แจ๋ม กิ่งเพชร ชอบเข้าบ่อน ไม่เกี่ยวกัน ตนไม่ได้พาดพิงถึงใคร อย่านำมาเชื่อมโยงกัน หลังจากนั้นจะเดินทางไปรับทราบข้อหาเดียวกันต่อที่ สน.ประชาชื่น
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะบอกว่า ที่เปิดให้ดู เพื่อจะบอกว่า จริงๆ ตนมีหลักฐานอยู่เป็นเข่ง อยู่ที่ว่าจะเอาออกมาใช้อย่างไรเท่านั้น ส่วนการดำเนินคดีกับ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ยืนยันว่าจะเดินหน้าฟ้องจริง และไม่ใช่การฟ้องแก้เกี้ยว เพราะคุณแม่ทำให้ตนเสียหายมาก ที่มากล่าวหาว่าตนหลอกลวง ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยหลอก และตนก็ไม่เคยบอกกับคุณแม่ว่าตนเองเป็นทนายความ โดยวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายนนี้ เวลา 10 นาฬิกา ตนจะเริ่มเริ่มดำเนินการคดีหมิ่นประมาทให้คุณแม่ก่อน 1 คดี ที่ สภ.พระประแดง จะไม่รอให้ถึงวันที่ 20 กรกฎาคมนี้แล้ว และถ้าคุณแม่จะฟ้องกลับ ก็ไม่กลัว และเชื่อว่าคุณแม่ทำอะไรตนไม่ได้ เพราะสิ่งที่คุณแม่พูดทำให้ตนเสียหายจริง พร้อมฝากบอกนางภนิดาว่าให้โทรหาปอบ่อยๆ
บอกปอว่า แม่แย่แล้ว ทั้งนี้ หากคุณแม่จะติดต่อมาหาตน ตนจะไม่รับสาย เพราะไม่ให้ราคา