สาวสุดทน ยอมโดนตัดไฟหลังจ่ายแพงมา 5 ปี ก่อนรู้ความจริงที่แท้ของข้างบ้าน

 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ SAYS มีรายงานเรื่องราวของ อีฟ ลิม ที่ออกมาโพสต์เรื่องราวว่าเธอเจอบิลค่าไฟในแต่ละเดือน อยู่ที่เดือนละ 700 - 800 ริงกิต (5,600 - 6,400 บาท) ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกติเลย

ลิมเผยว่า เธอได้ลองติดต่อหาการไฟฟ้ามานับครั้งไม่ถ้วน และยังพยายามสืบหาความจริงเอง ซึ่งก็ได้ลองมาหลากหลายวิธีแล้ว ตั้งแต่การปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจุดต่าง ๆ ในบ้าน ตลอดจนย้ายไปอยู่บ้านเพื่อน เพื่อไม่ให้มีการใช้ไฟที่บ้าน

เธอได้เรียกช่างไฟมาตรวจสอบอีกหลายครั้ง ว่ามีใครในละแวกนั้นแอบใช้ไฟของบ้านเธอหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อช่างไฟแนะนำให้เธอเปลี่ยนเครื่องทำน้ำอุ่น หรือเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าชี้ว่าจะทำการเปลี่ยนมิเตอร์ให้ ซึ่งเธอก็ต้องหมดเงินไปมากในการเปลี่ยนชิ้นส่วนแต่ละครั้ง แต่ทุกๆ ครั้งผลก็ออกมาเหมือนเดิม เพราะบิลค่าไฟของเธอก็ยังสูงอยู่ดี

แต่ฟางเส้นสุดท้ายของเธอมาถึง เมื่อเจอบิลค่าไฟส่งมาเรียกเก็บถึง 1,500 ริงกิต (ราว 12,000 บาท)
 
และในที่สุดเธอก็ติดต่อให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดไฟที่บ้าน แต่เรื่องแปลกที่สุดก็เกิดขึ้น เพราะหลังเจ้าหน้าที่ตัดไฟทั้งบ้านแล้ว หลอดไฟและพัดลมในบ้านเธอก็ยังทำงานอยู่ และอยู่ๆแม่บ้านจากบ้านข้างๆ ก็มาเคาะประดูและเข้ามาถามว่า "ทำไมถึงไฟดับ"

-ชี้แจงแล้ว กินลูกพลับตามด้วย นมเปรี้ยว กล้วยหอม เป็นพิษต่อร่างกาย จริงหรือ
-ลูกค้าสาวสุดทน เจอไรเดอร์ตอบกวน แถมอาหารที่ได้สภาพหกเลอะเทอะ
-วันหยุด เดือนสิงหาคม 2565 มีวันหยุดกี่วัน

สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ว่าที่แท้คนที่รับผิดชอบการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยนั้น ระบุเลขมิเตอร์ในการคำนวณไฟฟ้าบ้านเธอผิด ทำให้การไฟฟ้าคิดค่าไฟเธอผิดพลาดตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายดังกล่าวแท้จริงเป็นค่าไฟของเพื่อนบ้าน ที่เธอต้องมาจ่ายแทนพวกเขาอยู่นานแสนนาน

ลิมย้ำว่าเพื่อนบ้านไม่ได้ขโมยไฟใช้ เพราะพวกเขาก็ไม่ทราบเรื่องบิลค่าไฟที่สลับกันเช่นกัน ซึ่งต่อมาทางการไฟฟ้าได้สัญญากับลิม ว่าจะคืนเงินค่าไฟส่วนเกินที่คำนวณพลาดตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เป็นมูลค่า 15,000 ริงกิต (ราว 121,000 บาท)

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews