ว่อนข่าวลือ มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากจดหมายหรือพัสดุ ทาง ไปรษณีย์ไทย แจงแล้ว
หลังว่อนข่าวลือ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากจดหมายหรือพัสดุ ล่าสุดศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมตรวจสอบกับทาง ไปรษณีย์ไทย ชี้แจงแล้ว
ตามที่มีข้อมูลเผยแพร่ในออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องไปรษณีย์เตือนมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากจดหมายหรือพัสดุ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีการบอกต่อข้อความโดยระบุว่า คำเตือนจากสำนักไปรษณีย์ไทย ขอให้ทุกท่านที่ได้รับพัสดุควรแยกใส่ถุงไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนนำมาเปิดหรือฉีดยาฆ่าเชื้อก่อนนำเข้าบ้านเนื่องจากมีคนได้รับเชื้อโควิด 19 นี้ผ่านทางจดหมายหรือพัสดุแล้ว พร้อมยืนยันว่าสามารถเป็นพาหะได้ทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากการรับพัสดุหรือจดหมายรวมถึงยังไม่มีรายงานพนักงานและลูกจ้างของไปรษณีย์ไทยติดเชื้อ
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยได้ตระหนักและมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ที่เข้มงวดเป็นอย่างดี โดยผู้ปฏิบัติงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัย 100% และทำความสะอาดมือบ่อยๆ ในที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งฉีดเช็ดแอลกอฮอล์อย่างน้อยทุก 20 นาที มีบริการเจลทำความสะอาดมือ ส่วนเคาน์เตอร์บริการจะเว้นช่องบริการ 1 ช่อง พร้อมตีเส้นระยะห่าง 1 เมตร สำหรับคิวรอใช้บริการ เว้นเก้าอี้นั่ง 1 เมตร โดยจะต้องติดตั้ง QR Code สำหรับ แอปพลิเคชันไทยชนะทุกแห่ง ขณะที่ศูนย์ไปรษณีย์ต้องดูแลความสะอาดไปรษณียภัณฑ์ทุกชิ้น พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อรถขนส่งไปรษณีย์ทุกคัน รวมถึงพัสดุทุกชิ้น สิ่งของที่มาจากต่างประเทศ รวมถึงการนำจ่ายสิ่งของ ไปรษณีย์ไทย ได้กำชับให้บุรุษไปรษณีย์ทุกคนตรวจวัดอุณหภูมิก่อนออกนำจ่ายสิ่งของทุกครั้ง
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูล ข่าวสารจาก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandpost.co.th หรือโทร. 02 8313131
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากการรับพัสดุหรือจดหมาย รวมถึงยังไม่มีรายงานพนักงานและลูกจ้างของไปรษณีย์ไทยติดเชื้อ ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยได้ตระหนักและมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ที่เข้มงวดเป็นอย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews