เปิดตัว "ข้าวแสงแรกของประเทศ" หอมมะลิ GI ลุยตลาดข้าวหอมมะลิระดับโลก
เปิดตัวแบรนด์ข้าวหอมมะลิ จีไอขึ้นชื่อจ.อุบล ข้าวแสงแรกของประเทศ เป็นสินค้าจีไอ อีสานสู่สากล ลุยตลาดข้าวหอมมะลิระดับโลก
วันที่ 22 ก.ค.65 ข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวที่ต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศ ยิ่งเป็นข้าวหอมมะลิที่ได้รับการยกระดับถึงสิ่งบ่งชี้ด้านภูมิศาสตร์ของแหล่งกำเนิด ก็เป็นเครื่องรับรองถึงคุณภาพของข้าวที่กินเข้าไปมีทั้งคุณภาพ ดีต่อสุขภาพ จนไม่พอขาย ทำให้ชาวนาที่ต้องการยกระดับคุณภาพข้าว นำไปสู่การยกระดับรายได้ในครัวเรือน ต้องควบคุมคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดข้าวในอนาคตตามมาตรฐานการรับรองคุณภาพของกระทรวงพาณิชย์
ขณะนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมีนโยบายผลักดันข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี เป็นสินค้า GI หนึ่งใน 18 แห่ง สินค้า GI อีสานสู่สากล เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องคุณภาพข้าวหอมมะลิอุบลราชธานีให้ผู้บริโภค
นายประชัน คุ้มหินลาด ผู้ใหญ่บ้านกลุ่มข้าวอินทรีย์บ้านโนนสวรรค์ ต.สำโรง อ.สำโรง จ.อุบลราธานี กล่าวถึงการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่ เพราะอดีตการทำนาเกษตรกรในหมู่บ้านโนนสวรรค์และหมู่บ้านใกล้เคียง มีการใช้ปุ๋ยเคมีกันมาก นอกจากมีต้นทุนการผลิตสูง ยังสร้างผลเสียให้กับคุณภาพดิน สิ่งแวดล้อม และคนปลูกข้าว เมื่อหลายปีก่อน ได้รวมกลุ่มกันผลิตข้าวอินทรีย์ โดยมีสมาชิกเข้าร่วม 23 ราย รวมพื้นที่ปลูกกว่า 170 ไร่ จนได้รับสัญลักษณ์เป็นข้าว GI จากกระทรวงพาณิชย์ เพราะความตั้งใจที่ร่วมกันพัฒนาคุณภาพข้าวและคุณภาพชีวิตจากรายได้ที่มากขึ้น ปัจจุบัน "ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี" จำหน่ายข้าว 3 ประเภท คือ ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และ กข15
“สำหรับเอกลักษณ์ของข้าวอินทรีย์บ้านโนนสวรรค์ เมื่อนำมาหุงสุก จะมีกลิ่นหอม มีความเหนียวนุ่ม จากยางข้าวเหนียวปนเล็กน้อย เพราะชาวบ้านยังมีการปลูกข้าวเหนียวกินเอง ตามวัฒนธรรมของคนอีสาน ทำให้มีการเจือปนของพันธุ์ข้าวสองชนิด ตั้งแต่อยู่ในแปลงนา ทำให้ข้าวหอมมะลิอินทรีย์บ้านโนนสวรรค์ กลายเป็นข้าวที่มีลักษณะเด่นกว่าที่อื่น และเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ปัจจุบันข้าวที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ นอกจากขายในจังหวัด ก็ส่งออกไปประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งกำลังผลิตขณะนี้ ยังไม่เพียงพอแก่ความต้องการของตลาด”
นอกจากเกษตรกรบ้านโนนสวรรค์ จะผลิตข้าวอินทรีย์จนได้รับตรา GI แล้ว ยังมีการทำโครงการโคก หนอง นาโมเดล ตามรอยพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยการทำไร่นาส่วนผสม เลี้ยงสัตว์ไว้บริโภคเอง เมื่อมีเหลือก็นำออกจำหน่ายให้แก่ผู้ต้องการ ทุกวันนี้ นอกจากไม่มีต้นทุนจากสารเคมีที่นำมาใช้เพาะปลูกแล้ว ยังทำให้สุขภาพของคนปลูกข้าวดีขึ้น และมีรายได้เข้าสู่ครอบครัวอย่างเป็นกอบเป็นกำ ตลอดทั้งเดือน ตลอดทั้งปีด้วย
ภาพ - ข่าว โดย เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงค์