สังคม

heading-สังคม

อ.เจษฎา เผยอาการของโรคฝีดาษลิง มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

25 ก.ค. 2565 | 14:22 น.
อ.เจษฎา เผยอาการของโรคฝีดาษลิง มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

"อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์" เผยข้อมูลของโรคฝีดาษลิง อาการของโรค ควรกังวลแค่ไหน มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เผยผ่านเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ "โรคฝีดาษลิง คืออะไร? เอาข้อมูลเดิมที่เคยโพสต์ไว้ เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง (monkey pox) มาให้อ่านกันอีกทีนะครับ จะได้ไม่แตกตื่นกันเกินไป

- โรคฝีดาษลิง เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มที่ใกล้เคียงกับโรคฝีดาษในคนและโรคอีสุกอีใส ไวรัสกลุ่มนี้เป็น DNA ไวรัส จึงมีอัตราการกลายพันธุ์ต่ำกว่า RNA ไวรัส เช่น โควิด มาก

- ทำให้เกิดอาการเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ ตามด้วยการมีแผลผื่นตุ่มขึ้น ที่มักจะเริ่มจากใบหน้าและลามลงไปถึงลำตัว มีอาการป่วยนานตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึงเป็นเดือน จึงจะหาย และมีบางคนที่เสียชีวิต (มักเป็นเด็กเล็ก)

- รายงานการระบาดล่าสุด มีผู้ป่วยจำนวนประมาณ 16,000 รายใน 75 ประเทศ (ส่วนใหญ่เป็นเคสในยุโรป มักเป็นชาย อายุประมาณ 31-40 ปี และจำนวนมากเป็นกลุ่มชายรักชาย ที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน) และมีผู้เสียชีวิตเพียง 5 ราย (พบในแอฟริกา)

อ.เจษฎา เผยอาการของโรคฝีดาษลิง มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

#อาการของโรค

- โรคฝีดาษลิง เป็นญาติกับโรคฝีดาษในคน แต่แพร่ระบาดได้ยากกว่า มีอาการรุนแรงน้อยกว่า และทำให้เสียชีวิตได้น้อยกว่า

- มักจะมีอาการป่วยนาน 2-4 สัปดาห์ และมีระยะฟักตัว (ตั้งแต่ติดเชื้อจนมีอาการ) ประมาณ 5-21 วัน

- มีอาการป่วยปนกันระหว่างเป็นไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง หนาวสั่น เหนื่อย และต่อมน้ำเหลืองบวม (ซึ่งเป็นจุดแตกต่างสำคัญจากโรคฝีดาษในคน)

- เมื่อเริ่มเป็นไข้ จะมีตุ่มคันที่ดูน่ากลัวเกิดขึ้นใน 1-3 วัน โดยมักเริ่มที่ใบหน้า และกระจายไปตามร่างกาย บางคนอาจขึ้นไม่เยอะ แต่บางคนอาจมีหลายพันตุ่ม ซึ่งจะนูนใหญ่ขึ้น มีหนองข้างในเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน "สุก" และแตกเป็นแผล

#ที่มาของชื่อโรคฝีดาษลิง

- ไวรัสโรคฝีดาษลิง อยู่ในสกุล ออร์โทพ็อกซ์ไวรัส Orthopoxvirus ของวงศ์ พ็อกซ์วิริดี้ Poxviridae (คำว่า pox หมายถึงฝีหนอง)

- ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1958 ในการระบาดของโรคที่คล้ายฝีดาษ ซึ่งเกิดในห้องแล็บวิจัยที่เลี้ยงลิงไว้

- แม้ไม่ได้มีหลักฐานว่าลิงเป็นสาเหตุของการระบาดครั้งนั้น แต่คนก็เอาไปตั้งชื่อโรคว่า ฝีดาษลิง ไปแล้ว

- ปัจจุบัน องค์การอนามัยโลกคาดว่า สัตว์ตามธรรมชาติที่เป็นพาหะของโรคนี้ จริงๆ น่าจะเป็นพวกสัตว์ฟันแทะ เช่น พวกหนูและกระรอกในป่าของอัฟริกา

 

#การติดต่อของโรค

- เราติดเชื้อไวรัสโรคนี้จากสัตว์ที่ติดเชื้อได้ ทั้งจากการที่ถูกสัตว์นั้นกัดหรือข่วน และจากการกินเนื้อของมัน

- ส่วนการติดจากคนที่ติดเชื้อ เกิดได้โดยการสัมผัสกันโดยตรง หรือจับเสื้อผ้าที่นอน ที่ปนเปื้อนเชื้อ

- ไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายขอเวรา ผ่านรอยแผลบนผิวหนัง หรือระบบทางเดินหายใจหรือเนื้อเยื่อที่มีเมือก (เช่น ดวงตา จมูก ปาก)

- ส่วนใหญ่ การแพร่จากคนสู่คน จะผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่จากทางเดินหายใจ (เช่น หยดน้ำลาย) ทำให้เชื้อมักเดินทางไปไม่ไกลนัก จึงต้องเว้นระยะห่าง ในช่วงใบหน้าต่อใบหน้า (face to face)

- แต่จากการระบาดที่พบตอนหลังนี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่า การมีเพศสัมพันธ์ก็มีโอกาสจะแพร่เชื้อได้ เนื่องจากกิจกรรมทางเพศนั้น ทำให้คนทั้งสองมาอยู่ใกล้ชิดกัน

#ควรกังวลแค่ไหน

- โรคฝีดาษลิง มักจะไม่ได้มีอาการป่วยรุนแรง และคนส่วนใหญ่จะฟื้นตัวได้ในไม่กี่สัปดาห์ .. และการที่มันไม่ได้ระบาดแพร่กระจายโดยง่าย ก็ทำให้ความเสี่ยงต่อสาธารณะ ลดต่ำลงไปมากด้วย

- ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงในประเทศอังกฤษตอนนี้ พบว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์อัฟริกาตะวันตก ซึ่งมีความรุนแรงต่ำกว่าสายพันธุ์อัฟริกากลาง โดยมีอัตรการเสียชีวิตอยู่ที่ 1% (ถ้าเป็นสายพันธุ์อัฟริกากลาง จะเป็น 10% และถ้าโรคฝีดาษคน จะมากถึงประมาณ 30%)

- โอกาสเสียชีวิต จะสูงขึ้นถ้าผู้ป่วยเป็นเด็ก และคนหนุ่มสาว และคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ที่มีความเสี่ยงจะป่วยรุนแรง

- สตรีมีครรภ์ ที่ติดโรคฝีดาษลิง อาจจะประสบปัญหาในการตั้งครรภ์ และแท้งบุตรขณะคลอดได้

- ปัญหาหนึ่งของโรคนี้ คือ ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยๆ อาจจะไม่รู้ตัวว่าติดโรคอยู่ และทำให้แพร่เชื้อไวรัสไปยังผู้อื่นได้

#รักษาและป้องกันอย่างไร

- ไม่มีวิธีรักษาโดยเฉพาะ และส่วนใหญ่โรคจะหายไปเอง

- เชื่อกันว่า วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษนั้น มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคฝีดาษลิงไปด้วย

- แต่เนื่องจากโรคฝีดาษได้ถูกกำจัดหมดไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 40 ปีก่อน ทำให้ตอนนี้ไม่มีวัคซีนโรคฝีดาษสำหรับประชาชน เหลืออยู่อีกต่อไป

- แต่มีการพัฒนาวัคซีนใหม่สำเร็จแล้ว โดยบริษัท Bavarian Nordic สำหรับป้องกันทั้งโรคฝีดาษในคน และโรคฝีดาษลิง โดยได้รับการรับรองแล้วจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และแคนาดา (จะใช้ชื่อการค้าว่า Imvanex, Jynneos และ Imvamune ตามลำดับ)

- ส่วนยาต้านไวรัส นั้นกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนา

อ.เจษฎา เผยอาการของโรคฝีดาษลิง มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews

ข่าวเด่น

เอส แอนด์ พี ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขจัดงาน “S&P SWEET HAPPINESS 2025”

เอส แอนด์ พี ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขจัดงาน “S&P SWEET HAPPINESS 2025”

"เบ๊น อาปาเช่" ซัดชาวเน็ตแซะ "มิกซ์" ลูกชายหม่ำ ดังเพราะบารมีพ่อ

"เบ๊น อาปาเช่" ซัดชาวเน็ตแซะ "มิกซ์" ลูกชายหม่ำ ดังเพราะบารมีพ่อ

"ทนายธรรมราช" เผยคำใบ้ "ทนายคนใหม่" ของทนายตั้ม

"ทนายธรรมราช" เผยคำใบ้ "ทนายคนใหม่" ของทนายตั้ม

ศาลไม่ให้ประกันตัว ภรรยา และ ลูกสาวหมอบุญ นำตัวกลับเข้าเรือนจำตามเดิม

ศาลไม่ให้ประกันตัว ภรรยา และ ลูกสาวหมอบุญ นำตัวกลับเข้าเรือนจำตามเดิม

แม่น้ำหนึ่งให้เลขเด็ดมาแรง งวดนี้ 1/12/67 คอหวยห้ามพลาด

แม่น้ำหนึ่งให้เลขเด็ดมาแรง งวดนี้ 1/12/67 คอหวยห้ามพลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง