โฆษก ตร. เปิดข้อมูล ตร.ทำผิดวินัยร้ายแรง เดือน ก.ค. 65 โดนแล้ว 20 คน
โฆษก ตร. เปิดข้อมูล ตำรวจทำผิดวินัยร้ายแรงเดือนก.ค. ไล่ออก 19 ปลดออก 1 ราย ตั้งแต่เดือน ม.ค.- ก.ค. 65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 165 นาย
โฆษกตำรวจ เปิดข้อมูล ตร.ทำผิดวินัยร้ายแรง ตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ค. 65 จากกรณี ข่าววันนี้ 25 กรกฎาคม 2565 เวลา 14.00 น. ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2565 โดยมีคณะกรรมการ ก.ตร., ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร.วินัย คณะอนุกรรมการ ก.ตร.ร้องทุกข์ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร. บริหารทรัพยากรบุคคล เข้าร่วมประชุม ใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายว่า คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของข้าราชการตำรวจ เดือน ก.ค. 65 มีข้าราชการตำรวจโดนลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 20 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 19 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 1 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.- ก.ค. 65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 165 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 133 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 32 นาย นอกนั้นเป็นวาระการประชุมรับรองรายงานการประชุมของคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจทั่วไป
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้กำชับในที่ประชุมให้ตำรวจไปวางมาตรการป้องกันอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเรื่องผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ อาจจะเกิดเหตุลัก วิ่ง ชิง ปล้น ได้จึงให้ตำรวจไปวางมาตรการในการดูแลเรื่องนี้จะป้องกันอย่างไร ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมประจำเดือนตามปกติ ส่วนการประชุมก.ต.ช.ยังไม่ได้กำหนด ส่วนกรณีของพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ทางพล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ทางที่ประชุมให้นำกลับไปทบทวน เพื่อความรอบคอบเรื่องระเบียบ กฎหมาย และสิทธิประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ได้มีรายเดียวมีหลายกรณีที่คณะกรรมการให้กลับไปทบทวนใหม่ ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลา ส่วนจะกลับเข้าที่ประชุมใหม่เมื่อใดจะต้องพิจารณาเป็นรายเรื่องไป เพราะวันนี้มีหลายเรื่องที่ต้องนำกลับไปทบทวน
นอกจากนี้พล.ต.ต.ยิ่งยศ ยังกล่าวถึงกรณีตำรวจสิงคโปร์ออกหมายแดงหญิงไทยและสามีสิงคโปร์ ฉ้อโกงรับออเดอร์นาฬิกา-กระเป๋าแบรนด์หรู มูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท ว่า มีการประสานข้อมูลทางข้างระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนความร่วมมือทางการทูตมีความร่วมมือแบบไม่เป็นทางการส่วนหนึ่ง ส่วนการติดตามตัวขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลการติดตามตัวว่าเจอแล้วหรือยัง ทั้งนี้มีการประสานข้อมูลระหว่างตำรวจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด ส่วนยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews