ชาวบ้านระทึก กระบะขาวไม่สนโลก "ชนท้ายวินมอเตอร์ไซค์" ลากยาวไปกว่า 300 เมตร
ชาวบ้านระทึก กระบะขาวไม่สนโลกชนท้ายวินมอเตอร์ไซค์ ลากหนีไปไกลไปกว่า 300 เมตร ตำรวจจับเป่า แอลกอฮอล์พุ่งปรี๊ด จึงควบคุมตัวเตรียมดำเนินคดีทุกข้อหา
เป็นประเด็นที่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ จากกรณีที่มีการแชร์ภาพเหตุการณ์ กระบะขาวชนวินมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่คนขับจะยังขับต่อแบบไม่สนโลก ลากรถมอเตอร์ไซค์นั้นติดไปกับรถ และพยายามขับไปต่อโดยไม่แคร์สายตาของประชาชนและผู้ใช้ถนน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ตามสกัดจับกุมเอาไว้ได้
ทั้งนี้ตามรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม บนถนนรัตนราช ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังเกิดเหตุตำรวจและพลเมืองดี ไล่สกัดจับรถคันดังกล่าวเอาไว้ได้ บนถนนสายเลี่ยงเมือง ก่อนข้ามคลองสำโรง โดยตำรวจต้องใส่กุญแจมือควบคุมตัวชายคนขับรถทันที หลังจากพยามหลบหนีและหวั่นเกรงว่าถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์
จากการสอบถาม นายกิติคุณ อายุ 53 ปี คนขับรถกระบะคันก่อเหตุ เบื้องต้นยอมรับว่า ขับชนและลากรถจักรยานยนต์มาจริง สาเหตุเพราะตกใจ เพราะก่อนหน้านี้ไปชนท้ายรถกระบะคันหนึ่งกลางถนนเทพรัตน์ขาออก กม. 28 แล้วตั้งใจหลบหนี แต่ถูกเจ้าของรถไล่ติดตาม จึงขับด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตามที่ปรากฏในคลิป
สาวสุดเซ็ง พ่อเข้ารพ.แม่เลี้ยงอยู่บ้าน กลับมาเห็นสภาพแทบรับไม่ได้
ส่องรถป้ายแดงพระเอกซุปตาร์ ณเดชน์ คูกิมิยะ โซเชียลเเห่ดูเลขป้ายทะเบียน
อ.เจษฎา เตือนภัย ของที่ห้ามลืมไว้ในรถเด็ดขาด เพราะอาจระเบิดได้
ด้าน เจ้าของรถกระบะที่ถูกชน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนมองกระจกหลังเห็นว่ามีรถกระบะสีขาวคันนี้ขับมาด้วยความเร็ว และส่ายไปมา จึงยกคันเร่งเพื่อให้แซงรถตนเองไป แต่กลับถูกชนท้ายอย่างจัง จากนั้นคู่กรณีกลับถอยหลังแล้วขับหลบหนี จึงรีบขับรถตามและโทร. ประสาตำรวจ จนรถที่ก่อเหตุหนีใช้ไปถนนเทพรัตนขาเข้า แล้วเลี้ยวเข้าตลาดบางบ่อ ก่อนจะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายสัมฤทธิ์ เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกลาก บอกว่า ขณะนั้นกำลังขับเข้าวินบางบ่อ ได้ยินเสียงรถกระบะคันนี้เร่งเครื่องมาด้วยความแรง หันไปมองพบว่ารถกระบะกำลังพุ่งเข้ามาชน ตนจึงตัดสินใจกระโดดทิ้งรถหนี จนรถถูกชนติดคาหน้ารถไป
อย่างไรก็ตาม ผกก.สภ.บางบ่อ เปิดเผยว่า คนขับรถกระบะรายนี้มีอาการเมาสุรา ซึ่งผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 283 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ (เกิน 50 ถือว่าเมา) จึงควบคุมตัวเตรียมดำเนินคดีทุกข้อหา ไม่ว่าจะเมาแล้วขับ ขับรถประมาท ซึ่งหลังเกิดเหตุยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากคนขับมีอาการเมาหนัก ขณะนี้ได้ประสานญาติของผู้ก่อเหตุมารับทราบเรื่องราวดังกล่าวและพูดคุยกับฝ่ายผู้เสียหายแล้ว
คลิปอีกมุมจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ขอขอบคุณข้อมมูลจาก Tnews