เศรษฐกิจ

heading-เศรษฐกิจ

กกพ. สั่งการไฟฟ้า “ลดค่าบริการรายเดือน”  ลดผลกระทบปชช.

14 พ.ย. 2565 | 13:08 น.
กกพ. สั่งการไฟฟ้า “ลดค่าบริการรายเดือน”  ลดผลกระทบปชช.

กกพ.พร้อมบริหารต้นทุน ชง 3 ทางเลือก ปรับขึ้นค่าเอฟทีงวด ม.ค. - เม.ย. 2566 ส่งผลค่าไฟฟ้าตั้งแต่ 5.37-6.03 บาทต่อหน่วย

กกพ. สั่งการไฟฟ้าลดค่าบริการรายเดือน”  ลดผลกระทบปชช.

กกพ.พร้อมบริหารต้นทุน ชง 3 ทางเลือก ปรับขึ้นค่าเอฟทีงวด ม.ค. - เม.ย. 2566 ส่งผลค่าไฟฟ้าตั้งแต่ 5.37-6.03 บาทต่อหน่วย สั่งการไฟฟ้าลดค่าบริการรายเดือนจาก 38.22 เหลือ 24.62 บาทต่อเดือน เพื่อลดภาระบ้านที่อยู่อาศัย และ กิจการขนาดเล็ก

กกพ. สั่งการไฟฟ้า “ลดค่าบริการรายเดือน”  ลดผลกระทบปชช.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะ โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. เมื่อวันที่ 9 .ย. 2565 มีมติรับทราบภาระต้นทุนค่าเอฟทีประจำรอบ พ.ศ.- ส.ค. 2565 และ เห็นชอบผลการค้านวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 พร้อมให้สำนักงาน กกพ. นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนคงค้างที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับในกรณีต่าง ๆ ดังนี้

กรณีที่ 1 ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 จำนวน 224.98 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 จำนวน 158.31 สตางค์ต่อหน่วย และเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงบางส่วน 66.67 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงิน คืนครบภายใน 1 ปี โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 81,505 ล้านทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.03 บาทต่อหน่วย

กกพ. สั่งการไฟฟ้า “ลดค่าบริการรายเดือน”  ลดผลกระทบปชช.

กรณีที่ 2 ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 จำนวน 191.64 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟที่ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 จำนวน 158.31 สตางค์ต่อหน่วย และเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงบางส่วน 33.33 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงิน คืนครบภายใน 2 ปี โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 101,881 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.70 บาทต่อหน่วย

กรณีที่ 3 ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 จำนวน 158.31 สตางค์ต่อหน่วย โดย กฟผ. จะต้องรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 122,257 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.37 บาทต่อหน่วย

นายคมกฤช กล่าวว่า การประมาณการค่าไฟฟ้าดังกล่าวเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเรื่อง กระบวนการและขั้นตอนการใช้สูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ โดยมีสมมุติฐานและ ปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟทีในรอบเดือน ม.ค. - เม.ย. 2566 ตามผลการค้านวณของ กฟผ. ประกอบด้วย

1. การจัดหาพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 เท่ากับประมาณ 67,833 ล้าน หน่วย เพิ่มขึ้น 3,724 ล้านหน่วย จากประมาณการงวดก่อนหน้า (เดือน ก.ย. - ธ.ค. 2565) ที่คาดว่าจะมีการจัดหาพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 64,091 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 5.84%

2. สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 ยังคงใช้ก๊าซ ธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก 54.20% ของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด นอกจากนี้เป็นการซื้อ ไฟฟ้าจากต่างประเทศ (ลาวและมาเลเซีย) รวม 13.81% และ ลิกไนต์ของ กฟผ. 8.46% เชื้อเพลิงถ่านหินนำเข้าโรงไฟฟ้าเอกชน 6.25% พลังน้ำของ กฟผ. 3.48% น้ำมันเตา (กฟผ. และ IPP) 0.73% น้ำมันดีเซล (กฟผ. และ IPP) 6.31% และอื่นๆ อีกร้อยละ 6.75

3. ราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ใช้ในการคำนวณค่าเอฟทีเดือน ม.ค.–เม.ย. 2566 เปลี่ยนแปลง จากการประมาณการในเดือน ก.ย.- ธ.ค. 2565 โดยราคาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการ ผลิตไฟฟ้า และราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นมากจากรอบเดือน ก.ย.– ธ.ค. 2565 โดยที่เชื้อเพลิงอื่นๆ มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยและคงที่ 

4. อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ใช้ในการประมาณการ ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 1 เดือนย้อนหลังก่อนทำประมาณการ (1 - 30 ก.ย. 2555) เท่ากับ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ อ้างอิงข้อมูลธนาคารแห่งประเทศ ไทยเป็นฐานซึ่งอ่อนค่าลงจากประมาณการในงวดเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2555 ที่ประมาณการไว้ที่ 34,40 บาทต่อดอลลาร์อยู่ 2.60 บาทต่อดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 7.75%)

สถานการณ์ค่าไฟฟ้าในประเทศไทยยังคงอยู่ในสภาวะที่อ่อนไหวและยังคงผันผวนอยู่ในระดับราคา ที่สูงตามสถานการณ์ราคา LNG และราคาน้ำมันในตลาดโลก

โดยมีปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าและ ค่าเอฟทีเรียกเก็บตลอดปี 2566 ดังนี้

1. ความไม่แน่นอนของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและแนวโน้มที่จะสามารถจ่ายก๊าซจากแหล่ง เอราวัณเข้าสู่ระดับปกติหรือใกล้เคียงปกติเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการนำเข้า LNG มาทดแทน

2. การลดลงของแหล่งก๊าซธรรมชาติทางตะวันตก (ในเมียนมา) โดยอาจจะต้องนำก๊าซธรรมชาติ เหลวหรือ LNG เข้ามาทดแทนในปริมาณมากขึ้นเพื่อทดแทนหรือหาแหล่งพลังงานรูปแบบอื่น เช่น พลังน้ำหรือ พลังงานหมุนเวียนอื่นๆเข้ามาทดแทน

3. สภาวะราคา LNG ในตลาดโลกมีการแกว่งตัวในระดับที่สูงถึงสูงมากเนื่องจากอุปสงค์ (Demand) ของ LNG ในตลาดโลกยังคงมีมากกว่าอุปทาน (Supply) และตลาดอาจจะมีลักษณะดังกล่าว ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2566 อันเป็นผลต่อเนื่องจากที่ยุโรปลดการนำเข้าก๊าซทางท่อจากรัสเซียและ หันไปซื้อ LNG ในตลาดจรแทนและการทยอยพื้นตัวทางเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศหลังวิกฤต Covid-19 ส่งผลต่อความต้องการใช้พลังงานที่สูงขึ้นรวมทั้งประเทศไทย

4. อัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์) ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องและส่งผล ต่อราคาเชื้อเพลิงและค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า กฟผ. และ IPP ที่เพิ่มขึ้น

5. การใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติสามารถลดการนำเข้า LNG ได้แต่การใช้น้ำมันยังคงมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าในระดับสูงเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ 

6. ข้อจำกัดด้านสถานะทางการเงินและสภาพคล่องของ กฟผ. เป็นอีกสาเหตุที่อาจทำให้ไม่สามารถตอบสนองภาคนโยบายในการตรึงค่าเอฟทีใต้ในระยะยาว

สํานักงาน กกพ จึงขอเรียกร้องให้มีการมีการบริหารการใช้ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติอย่างประหยัดและ มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถใช้พลังงานที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทางเศรษฐกิจ ลดการนำเข้า LNG หรือลดการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าด้วยน้ำมันเพื่อให้สามารถบริหารและสามารถควบคุมต้นทุนราคาเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตราคาพลังงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

กกพ.ได้พิจารณาทบทวนอัตราค่าบริการรายเดือนที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระหว่างวันที่ 3 - 17 ต.ค. 2565 แล้ว เห็นชอบให้มีการปรับอัตราค่าบริการรายเดือนลดลงสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้า 3 ประเภท ดังนี้

1. ประเภทบ้านอยู่อาศัย ใช้มากกว่า 150 หน่วย รวมถึงประเภทบ้านอยู่อาศัย แรงดันต่ำ อัตรา TOU เดิม 38.22 บาท/เดือน เป็น 24.62 บาท/ เดือน

2. กิจการขนาดเล็ก แรงดันต่ำ เดิม 46.16 บาท/เดือน เป็น 32.29 บาท/เดือน

3. กิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร อัตรา TOU เดิม 228.17 บาท/เดือน เป็น 204.07 บาท/เดิอน

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. จะเร่งดำเนินการประสานการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเพื่อให้การปรับลดอัตราค่าบริการรายเดือนให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตพลังงานให้ ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็กอีกทางหนึ่งด้วย นายคมกฤช กล่าว

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

เพื่อนสนิทสาวสอง เผยเรื่องน่าเศร้า หยื่อ หนุ่มจีนปลิดชีพเหี้ยม

เพื่อนสนิทสาวสอง เผยเรื่องน่าเศร้า หยื่อ หนุ่มจีนปลิดชีพเหี้ยม

กรมอุตุฯ เตือน พายุฤดูร้อนเพิ่มขึ้น 27 เม.ย. - 1 พ.ค. เช็กพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เตือน พายุฤดูร้อนเพิ่มขึ้น 27 เม.ย. - 1 พ.ค. เช็กพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง

โศกนาฏกรรมสลด เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย บาดเจ็บพุ่งกว่า 800 คน

โศกนาฏกรรมสลด เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย บาดเจ็บพุ่งกว่า 800 คน

ฤกษ์ขอเงินพระจันทร์ 28 เม.ย. นี้ วันอมาวสี เปิดทรัพย์ รับโชคปัง

ฤกษ์ขอเงินพระจันทร์ 28 เม.ย. นี้ วันอมาวสี เปิดทรัพย์ รับโชคปัง

สถิติหวยลาว หวยลาวออกวันจันทร์ ผลหวยลาว หวยลาวพัฒนา หวยลาว 28/04/68

สถิติหวยลาว หวยลาวออกวันจันทร์ ผลหวยลาว หวยลาวพัฒนา หวยลาว 28/04/68