ชายชราชาวอังกฤษ ถูกแมงป่องกัดในไทย ลูกชายเห็นอาการตกใจ แฉยับ รพ.ที่รักษา
ชายชราชาวอังกฤษ ถูกแมงป่องต่อยที่ไทย ลูกชายตกใจหลังเห็นอาการพ่อ แฉยับโรงพยาบาลที่รักษา ไม่มีเงินพาพ่อกลับบ้าน แถมสถานทูตไม่ช่วย
จากกรณีเกิดเรื่องราวที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อชาวอังกฤษ ถูกแมงป่องต่อยในไทย ไม่มีเงินกลับบ้าน ลูกชายตกใจแฉยับ รพ.ที่รักษา โดยรายงานระบุว่า ชายสูงวัยชาวอังกฤษเคราะห์ร้ายถูกแมงป่องต่อย แต่อาการลุกลามกลายเป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ส่งผลให้เขาจะต้องถูกตัดขาและสถานทูตก็ไม่ให้ความช่วยเหลือ
รายงานระบุว่า ชายคนดังกล่าวคือ อแลน สตีเฟนสัน (Alan Stephenson) ชาวอังกฤษวัย 73 ปี เดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแมงป่อยต่อย กลายเป็นแผลได้ลุกลามเป็น "โรคแบคทีเรียกินเนื้อ" หรือ "โรคเนื้อเน่า" (flesh-eating disease) บริเวณเท้าจนถึงเข่า
โดยแพทย์แจ้งว่าจะต้อง "ตัดขาทิ้ง" และครอบครัวยังจะต้องหาเงิน 18,000 ปอนด์ หรือ ราวๆ 769,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการนำเขากลับบ้าน ไปพร้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอีกด้วย
ในขณะที่ลูกชายของชายชราชาวอังกฤษ ชื่อว่า คริสเตียน สตีเฟนสัน วัย 44 ปี กล่าวว่า ต้องเดินทางจากเมืองฮัลล์ไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลในประเทศไทย ก่อนจะพบว่าพ่อของเขาจะต้องถูกตัดขา ทั้งนี้ เขาอ้างว่าตอนไปอยู่ที่ข้างเตียงของพ่อ เขาถึงกับสิ้นหวังและกลัวว่าจะพ่อจะมีอันตรายถึงชีวิต
อีกทั้งเขาบอกด้วยว่าเห็นแมลงสาบวิ่งอยู่บนเพดานห้องผู้ป่วยและแมวจรจัดก็กินอาหารของผู้ป่วย ส่วนพ่อของเขาอยู่ในอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุด ทั้งยังสับสน จำไม่ได้ว่า วีซ่ากับเอกสารส่วนตัวอยู่ที่ไหน เขาเปรียบเทียบสิ่งที่เห็นว่าเหมือนหลุดออกมาจากหนังเรื่อง Banged Up Abroad
คริสเตียนยังบอกอีกว่าโรงพยาบาลนั้นน่ากลัว และไม่มีทรัพยากรอะไรที่จะรักษาขาของพ่อของเขาได้ จนเขาคิดว่าพ่อของเขากำลังจะตายอยู่ที่นั่น แต่เขาก็จัดการย้ายพ่อไปที่โรงพยาบาลอีกแห่ง แพทย์ในสหราชอาณาจักรบอกว่าอาจจะรักษาขาของพ่อของเขาเอาไว้ได้ แต่ครอบครัวก็ต้องหาเงิน 18,000 ปอนด์ ในการพาพ่อกลับบ้าน ทำให้คริสเตียนต้องเปิดเพจ Just Giving เพื่อรับบริจาคเงิน
จากข้อมูลผู้ป่วยพบว่า อแลน เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อสำรวจก่อนจะถูกแมงป่องกัด และติดต่อหา คริสเตียน ผู้เป็นลูกชาย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน บอกว่าอยู่โรงพยาบาลและอาการทรุดลงเรื่อยๆ และการที่เขามีโรคประจำตัวคือ "เบาหวาน" ทำให้ขาของเขาบวมแดงก่อนติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ และแพทย์แนะนำว่าต้องตัดขา
ส่วนการย้ายโรงพยาบาลที่แม้จะเล็กกว่า สภาพดีกว่าแต่ก็แพงกว่ามาก ทั้งยังต้องจ่ายค่ารักษาถี่มาก ทำให้ครอบครัวต้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตอังกฤษ แต่ก็ไร้ผลและไม่ได้รับการใส่ใจ จากการที่ได้รับแจ้งว่ารัฐบาลจะไม่จ่ายเงินช่วยเหลือใด ๆ ในการนำอแลนกลับบ้านโดยปลอดภัย
ทั้งนี้ คริสเตียนบอกว่าสภาพแผลที่ขาของพ่อของเขาน่ากลัวมาก และการที่ไม่ได้รับการพลิกตัวหรือพยุงให้ลุกจากเตียง ได้ส่งผลให้เกิดแผลกดทับที่แย่พอๆ กัน เขาบอกด้วยว่าการที่โรงพยาบาลเก็บค่ารักษาเป็นเงินสดและแพงมาก ทำให้เขาต้องเดินไปหาตู้ ATM ที่ใกล้ที่สุด แต่ต้องเดิน 3 กิโลเมตร เพราะโรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีแม้แต่ร้านขายเครื่องดื่มในพื้นที่ใกล้เคียง
แต่นับว่ายังโชคดีที่ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือคาร์ล เทอร์เนอร์ ส.ส.เมืองฮัลล์ ที่หมั่นติดต่อกับครอบครัวของอแลนและคอยให้คำแนะนำปรึกษา และช่วยติดต่อบริษัทที่จะนำอแลนกลับไปอังกฤษพร้อมกับทีมแพทย์ได้ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการได้โดยเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป ซึ่งปัจจุบันได้แต่คอยลุ้นยอดเงินบริจาคที่ตอนนี้อยู่ที่ 4,607 ปอนด์
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews