ศรีสุวรรณ ร้อง กกต.สอบ ทักษิณ ครอบงำเพื่อไทย ปมค่าแรง 600 อาจถึงขั้นยุบพรรค
"ศรีสุวรรณ จรรยา" ร้อง กกต.สอบ "ทักษิณ ชินวัตร" ครอบงำเพื่อไทย ปมค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ชี้อาจถึงขั้นต้องยุบพรรค
วันนี้ 13 ธ.ค. 65 เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ไปที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง/กกต. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดพรรคเพื่อไทย และ นายทักษิณ ชินวัตร กรณีนายทักษิณได้ไลฟ์ในวงสนทนาของกลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทยในหัวข้อ “จากคิดใหม่ ทำใหม่” ถึง “คิดใหญ่ ทำเป็น” เพื่อตอบโต้ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายพรรคเพื่อไทยปมขึ้นค่าแรง 600 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้ออกมาแถลงเปิด 10 นโยบายของพรรคเพื่อไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะนโยบายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากคือการเพิ่มค่าแรง 600 บาทต่อวัน และให้ผู้ที่จบปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาทภายในปี 2570 ซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและคัดค้านกันมาก แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่านโยบายดังกล่าวจะเอาเงินจากที่ไหนมาทำ
แต่ทว่าไม่ทันข้ามคืนปรากฏว่ามีนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ได้ออกมาไลฟ์ในวงสนทนาของกลุ่ม CARE ตำหนิผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเพิ่มค่าแรง 600 บาท/วันอย่างมาก โดยมีหลายคำพูดที่หลุดออกมาในลักษณะที่อาจตีความได้ว่าเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเชื่อมโยงให้เห็นว่าการกำหนดนโยบายของพรรคดังกล่าวอาจถูกครอบงำ หรือชี้นำจากนายทักษิณได้
ทั้งนี้ ตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ม.28 และ ม.29 ถือว่าเป็นข้อห้ามโดยเด็ดขาด ที่ไม่ต้องการที่จะให้บุคคลซึ่งไม่ใช้สมาชิกพรรคการเมืองนั้น ๆ เข้ามาก้าวก่ายหรือชี้นำ ครอบงำ การดำเนินกิจกรรมใด ๆ ของพรรคการเมืองได้ และพรรคการเมืองนั้นๆก็จะยินยอมให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคได้กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระได้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
ทั้งนี้ หากพรรคการเมืองนั้น ๆ ฝ่าฝืนก็อาจถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสั่งให้ยุบพรรคที่ฝ่าฝืนได้ตาม ม.92(3) และบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคแต่ไปกระทำตัวชี้นำหรือครอบงำพรรคการเมือง ก็อาจต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ขอบคุณ ศรีสุวรรณ จรรยา
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews